เปิดหัวใจ 4 แบรนด์หรู ถอดรหัสเทรนด์ "ตลาดลักซ์ชัวรี่" คุณค่าสำคัญกว่าราคา
"อนาคตเศรษฐกิจไทยในมือผู้บริโภคระดับบน“ บทบาทกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ ผ่านตลาดสินค้าลักซ์ชัวรี่ที่ยังคงโตต่อเนื่อง!
KEY
POINTS
- ผู้บริโภคระดับบนในไทยมีพลังมากขึ้น ทั้งในแง่กำลังซื้อและบทบาทในการขับเคลื่อนแบรนด์ ทำให้ธุรกิจลักซ์ชัวรี่ต้องปรับตัวด้วยการให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก
- Resilience คือหัวใจใหม่ของแบรนด์หรู ความยืดหยุ่นและความยั่งยืนกลายเป็นสิ่งที่ลูกค้าพรีเมียมมองหา มากกว่าความฟู่ฟ่าแบบดั้งเดิม
- แบรนด์ไทยต้องกล้าสร้าง "อัตลักษณ์" แทนที่จะลอกเลียนแบบตะวันตก ผู้บริโภคยุคใหม่ให้คุณค่ากับแบรนด์ที่มีรากเหง้าวัฒนธรรม มีความจริงใจ และสร้างประสบการณ์เฉพาะตัว
- การบริโภคของตลาดบนกำลังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย ด้วยการสนับสนุนสินค้าคุณภาพสูง งานฝีมือ และธุรกิจที่มีความรับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
“ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงในยุคนี้ ไม่ได้มองหาส่วนลดที่มากที่สุด แต่มองหาสิ่งที่ ‘มีคุณค่า’ และ ‘มีความหมาย’ กับชีวิต" - นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี”
เวทีเสวนา KTC FIT Talk ครั้งที่ 18 ภายใต้หัวข้อ “Resilience is the New Luxury: อนาคตเศรษฐกิจไทยในมือผู้บริโภคระดับบน” กลายเป็นบทสนทนาสำคัญของภาคธุรกิจลักซ์ชัวรี่ เมื่อแบรนด์ชั้นนำอย่างเคทีซี สยามพิวรรธน์ เฟอร์รารี่ และยูบิลลี่ ร่วมวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเชิงลึกของตลาดบน ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคเพื่ออวดสถานะ แต่ด้วย “พลังของคุณค่า” ที่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
ถอดรหัสเทรนด์ใหม่ของ "ตลาดลักซ์ชัวรี่" ที่เปลี่ยนโฉมจากการเน้นราคา มาเป็นการมองหาคุณค่าและประสบการณ์ที่มีความหมายแท้จริง
"เทรนด์ของ ‘Quiet Luxury’ (ความหรูหราที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า) และ ‘เศรษฐกิจเชิงประสบการณ์’ ไม่ใช่เพียงกระแสแฟชั่น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงจิตวิทยาในพฤติกรรมผู้บริโภคที่แบรนด์ต่างๆ ต้องเข้าใจ และปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุคใหม่"
เศรษฐกิจไทยในยุค “พายุที่สมบูรณ์แบบ” แต่ตลาดลักซ์ชัวรี่ยังแข็งแกร่ง
นายอภิเชษฐ์ เกียรติวรคุณ CFA ผู้อำนวยการ-การเงิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมสินค้าลักซ์ชัวรี่ระดับโลกและภาพรวมเศรษฐกิจว่า “ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับ ‘พายุที่สมบูรณ์แบบ’ จากแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว ความเสี่ยงจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ หรือปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจถูกปรับลดลงเหลือเพียง 1.6% - 2.3%
แต่ในขณะเดียวกันเราก็เห็น ‘อีกภาพหนึ่ง’ ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นคือการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของตลาดผู้บริโภคระดับบน ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวแบบ ‘K-Shaped’ ที่ไม่เท่าเทียมกัน และเป็นสัญญาณเตือนให้ภาคธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน โดยการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าและบริการระดับลักซ์ชัวรี่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 9.8% ในช่วงปี 2568-2575 (ข้อมูลจาก Verified Market Research) การเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนจากความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินทรัพย์ และกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้มีฐานะ (High-Net-Worth Individuals) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ"
เทรนด์ “Quiet Luxury” และเศรษฐกิจเชิงประสบการณ์ ที่เปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริโภค
ในยุคนี้ ผู้บริโภคลักซ์ชัวรี่ไม่ได้แค่ซื้อสินค้าที่แสดงสถานะทางสังคมด้วยโลโก้แบรนด์ใหญ่ ๆ อีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับ “ความจริงแท้” งานฝีมือ และประสบการณ์ที่มีความหมาย ซึ่งสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาที่ผู้ประกอบการและแบรนด์ต้องเข้าใจและปรับตัวอย่างรวดเร็ว
"ความสำเร็จของธุรกิจจะไม่ได้วัดจากยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างความเชื่อมโยงที่แท้จริงกับผู้บริโภค และการร่วมสร้างสรรค์คุณค่ากับชุมชนของตนเอง" นายอภิเชษฐ์กล่าว และเน้นว่า
"เราเชื่อว่า ‘โอกาส’ ยังคงมีอยู่เสมอ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด และการฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต”
พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มบน เปลี่ยน แต่ยังมั่นคง
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่กลุ่มผู้บริโภคระดับบนยังเป็นกลุ่มสำคัญที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะลูกค้าพรีเมียมที่ไม่ได้เน้นแค่ราคา แต่เลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และคุณค่าของตัวเองจริง ๆ
ข้อมูลสมาชิกเคทีซีแสดงให้เห็นว่า กลุ่มรายได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปมีสัดส่วนถึง 20% ของพอร์ตสมาชิก และสร้างยอดใช้จ่ายถึง 40% ของยอดรวม ส่วนกลุ่มรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน แม้มีสัดส่วนน้อยกว่า แต่กลับสร้างยอดใช้จ่ายถึง 20% ของทั้งหมด โดยหมวดหลักคือประกันภัย ท่องเที่ยว สุขภาพ ร้านอาหาร และน้ำมัน
กลยุทธ์เคทีซี สร้างคุณค่าเฉพาะบุคคล ด้วยสิทธิพิเศษและประสบการณ์ที่เหนือระดับ
เพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มพรีเมียม เคทีซีวางกลยุทธ์ 3 แนวทางหลัก ได้แก่
Exclusive Value คัดสรรสิทธิประโยชน์เฉพาะกลุ่มแบบ “By Invitation Only” เช่น แคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าเฟอร์รารี่และยูบิลลี่
CRM & Loyalty Program ร่วมกับพันธมิตร เช่น สยามพิวรรธน์ ขยายฐานสมาชิกผ่านแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp และแลกเปลี่ยนคะแนนสะสม
Service Excellence การบริการที่เข้าใจและตอบสนองกลุ่มลูกค้า Gen Z และ Tech-driven Wealth ที่ใช้เทคโนโลยีและให้ความสำคัญกับคุณค่าทางสังคม
นางประณยากล่าวสรุปว่า “เคทีซีเชื่อว่าความยืดหยุ่นและความสามารถในการสร้างคุณค่าร่วมกัน คือหัวใจของธุรกิจลักซ์ชัวรี่ยุคใหม่”
สยามพิวรรธน์ “New Luxury” คือคุณค่าและความรับผิดชอบ
นางธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ONESIAM ของสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า ตลาดลักซ์ชัวรี่กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผู้บริโภครุ่นใหม่หันมาสนใจคุณค่าทางจริยธรรม ความเป็นเอกลักษณ์ และประสบการณ์ที่มีความหมายมากกว่าการครอบครองสินค้า
สยามพิวรรธน์จึงเน้นกลยุทธ์ Co-Create & Collaboration ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก พร้อมสร้าง Ecosystem ลักซ์ชัวรี่ที่เข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมผลักดันแนวทาง Sustainable Luxury ที่ผสานความหรูหรากับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
แม้เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน แต่ตลาดลักซ์ชัวรี่ โดยเฉพาะ Fine Jewelry และนาฬิกายังคงเติบโตต่อเนื่องผ่านกิจกรรมและบริการเฉพาะ เช่น Exclusive Pop-up Stores, Events และคลับ JAI by ONESIAM
เฟอร์รารี่ “True Luxury” คือความต่อเนื่อง ซื่อสัตย์ และบริการระดับ 5 ดาว
นางนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและซ่อมบำรุงรถยนต์เฟอร์รารี่ (Ferrari) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวถึงความท้าทายในการทำธุรกิจรถซูเปอร์คาร์ระดับโลกในประเทศไทย แต่ย้ำว่าความสำเร็จอยู่ที่การมอบ “คุณค่า” ผ่านประสบการณ์เฉพาะบุคคล
“ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการแค่รถยนต์ แต่ต้องการแรงบันดาลใจ ไลฟ์สไตล์ และความสำเร็จที่จับต้องได้”
เธอกล่าวและย้ำว่า เฟอร์รารี่มุ่งเน้นการบริหารแบบยั่งยืน ดูแลลูกค้าเหมือนครอบครัวด้วยความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน
"เราเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มผู้มีฐานะ (High Net Worth) ไม่ได้มองหาเพียงความหรูหราภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและความใส่ใจในระยะยาว เราจึงลงทุนในโชว์รูมรถ (Pre-owned) และอู่สีใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เอสเปรีเอนซ่า เฟอร์รารี่ (Esperienza Ferrari) ปาสซีโอเน เฟอร์รารี่ คลับ ชาเลนจ์ (Passione Ferrari Club Challenge) และการพาลูกค้าเข้าร่วมงานยูนิเวอร์โซ เฟอร์รารี่ (Universo Ferrari) ที่ต่างประเทศ เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์ระดับโลกผ่านประสบการณ์จริง”
"ยูบิลลี่" ผู้บริโภคลักซ์ชัวรี่ยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” มากกว่าราคา
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า ผู้บริโภคในตลาดเพชรและเครื่องประดับลักซ์ชัวรี่ ไม่ได้มองหาสินค้าแพงเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับความหมาย คุณภาพ และความยั่งยืน
"ความท้าทายในการทำธุรกิจลักซ์ชัวรี่ในยุคที่เศรษฐกิจชะลอตัว คือการรักษา ‘ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง’ กับลูกค้า (Brand Affinity)"
"เราเชื่อว่าการให้บริการด้วยความจริงใจ ใส่ใจในทุกรายละเอียด และยึดมั่นในคุณภาพอย่างไม่ประนีประนอม คือหัวใจของแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ที่ลูกค้าพร้อมกลับมาเลือกอีกครั้งเสมอเมื่อถึงเวลาสำคัญในชีวิต
และการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ เช่น Gen Z และกลุ่มผู้มีฐานะรุ่นใหม่ ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จึงคิดแคมเปญต่างๆ ที่พูดสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงประเด็น ลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่ลื่นไหล ปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง
สื่อสารอย่างจริงใจเพื่อสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน ด้วยหลักการ “ปรับไวแต่ไม่ทิ้งแก่น” โดยยึดมั่นใน 3 แกนหลักของแบรนด์ ได้แก่ ความเป็นเลิศ (Excellence) มรดกแห่งความเชื่อมั่น (Legacy) และความไว้วางใจ (Trust) พร้อมส่งต่อคุณค่าและความเชื่อมั่นจากรุ่นสู่รุ่นอย่างแท้จริง”


