ส้มตำนัว ม่วนซื่นแบบอีสาน

“ส้มตำนัว” ชื่อนี้หลายคนคงพอจะคุ้นกันดี โดยเฉพาะบรรดาคอส้มตำ ถ้าเราเฉลยเป็นต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน...

โดย...โจ-ลิฟวิ่ง

คําว่า “ม่วนซื่น” นั้นเป็นภาษาอีสาน หมายถึง “สนุกสนาน” และคืนนี้ผมก็จะพาทุกคนไปม่วนซื่นกันในแบบฉบับอีสาน อ้อ! แต่เป็นอีสานยุคใหม่ ทันสมัย ไม่บ้านๆ อย่างที่เคยเห็นหรอก เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปเลยดีกว่าครับ

“ส้มตำนัว” ชื่อนี้หลายคนคงพอจะคุ้นกันดี โดยเฉพาะบรรดาคอส้มตำ ถ้าเราเฉลยเป็นต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน... ก็ร้านส้มตำชื่อดังที่อยู่สยามซอย 5 นั่นไง รู้จักใช่ไหมละ

หลังเปิดบริการมา 7 ปีเต็ม จนเป็นที่รู้จักในหมู่คนที่ชื่นชอบส้มตำและอาหารอีสานรสแซบ บวกกับความคับแคบในพื้นที่ร้าน หนุ่มจาก จ.กาฬสินธุ์ “ประพันธ์ กลั่นบิดา” หนึ่งในหุ้นส่วน (อีกคนเป็นชาวอุดรธานี) ก็มีความคิดที่จะขยายร้านแห่งใหม่ ให้ดูโอ่อ่ายิ่งขึ้น ให้มีความปลอดโปร่งโล่งสบายกว่าที่เป็นอยู่ ที่สำคัญไม่ต้องรีบกินรีบไปเหมือนกำลัง นั่งอยู่ในร้านฟาสต์ฟู้ด (ที่สยามสแควร์จะเป็นอย่างนี้จริงๆ ลูกค้ามาแล้วต้องรีบสั่งรีบกินและรีบไป เพราะมีคนรอคิวหน้าร้านเพียบเลย) ราว 7 เดือนที่แล้ว ทุกอย่างจึงมาลงตัวเป็นส้มตำนัวแห่งใหม่ ที่นี่น่าสัมผัสก็ตรงที่ไม่ใช่ร้านอาหารอีสานเถิดเทิง บรรยากาศเก่าๆ ทึมๆ คละคลุ้งด้วยควันบุหรี่ แถมมีเพลงลูกทุ่งหมอลำการันตี แต่จุดขายของเขาคือเน้นการนั่งดื่มนั่งกิน บรรยากาศโอเพนแอร์ ท่าม กลางสวนและน้ำไหลริน ไม่อึกทึกมากนัก มีดนตรีคอยขับกล่อม สร้างความเพลิดเพลินตลอดคืน

จะว่าไปแล้วส้มตำนัวแห่งใหม่นี้อาจจะไกลสำหรับคนที่มีนิวาสถานอยู่ใจกลางกรุงสักหน่อย แต่แฮงเกอร์ที่อยากลิ้มลองอาหารแซบๆ หรือลองเปลี่ยนที่ดื่มกับผองเพื่อนในบรรยากาศไม่วุ่นวาย รับรองมาแล้วต้องชอบความเป็นกันเองและความผ่อนคลาย (อันนี้ขอคอนเฟิร์ม ไม่ชอบให้เตะ)

ครั้งหนึ่ง (นานมาแล้ว) ตอนที่ร้านยังมีสาขาเดียว ผมมักจะแวะไปกินส้มตำนัวอยู่บ่อยๆ เพราะติดใจในรสชาติ ผมว่าเป็นส้มตำที่นัวสมชื่อ (นัว ภาษาอีสาน แปลว่า กลมกล่อม) ครบครันความอร่อยจริงๆ ยิ่งเป็นตำมั่วที่ใส่สารพัดอย่าง เช่น หมูยอ กากหมู ขนมจีน ต้องยกนิ้วให้ในความแซบหลาย เผ็ด เค็ม เปรี้ยว ตามต้นตำรับ จิ้มกินกับ ข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ มีไก่ทอดเสิร์ฟมาด้วย โอ้! จานเดียวไม่พอหรอก (แต่ต้องกินหลายๆ คนนะ เหมือนแย่งๆ กัน จะอร่อยสุดเชียวละ)

ล่าสุด ได้มาชิมร้านใหม่นี้ รสชาติส้มตำก็ไม่เปลี่ยนเลย มาตรฐานคงที่ดีเยี่ยม เคยแซบยังไงก็แซบยังงั้น แถมเมนูแซบอื่นๆ ที่ถูกใจก็ยังมีให้ลิ้มลองเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น ต้มแซบกระดูกอ่อน ลาบหมู ซุปหน่อไม้ รวมถึงที่ขึ้นชื่ออย่าง ผัดขนมจีน มีเครื่องเคราเยอะแยะไปหมด กุนเชียง หมูยอ หมูหย็อง ผัดกับเส้นขนมจีน (ที่ใส่ในตำมั่ว หรือ กินกับน้ำยานี่ละ) โรยหน้าด้วยแคบหมู จะให้อร่อยต้องหม่ำคู่กับส้มตำปูปลาร้าแบบอีสานดั้งเดิม รับรองแซบเหลือรับประทาน

ทุกคืนที่นี่เขามีเพลงอะคูสติกให้ได้ม่วนซื่นกันทุกวัน แต่ละวันนักร้องจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนมาโชว์เสียงเพราะๆ ให้คอเพลงฟังกันตั้งแต่หัวค่ำเรื่อยจนถึงร้านปิด 3 วงเป็นอย่างต่ำ

อย่างวันนี้ก็เปิดเวทีกันราวๆ ทุ่มครึ่ง จากนั้นพอ 2 ทุ่มครึ่ง เป็นหน้าที่ของวงใหม่ โดยจะเล่นยาวถึง 4 ทุ่มครึ่ง วงสุดท้ายจึงแตะมือเล่นต่อ โดยเพลงที่เล่นนั้นก็มีทั้งใหม่เก่า สลับกันไป เพลงเก่าๆ สมัยที่เรายังเด็ก หรือเพลงประกอบหนังการ์ตูนดังๆ ก็มีให้ฟัง (อันนี้มีให้ฟังเฉพาะบางวงเท่านั้น วันไหนไปเจอก็โชคดีไป)

แม้ที่นี่จะไม่ใช่ผับจ๋า มีแบรนด์ดังๆ มีนักร้องฮอตๆ หรือกระทั่งฟลอร์แดนซ์ที่หลายๆ แห่งพยายามจะดึงดูดใจวัยโจ๋ทั้งหลาย แต่สำหรับใครที่อยากโชว์ลีลาการเต้น เขาก็จัดพื้นที่ให้ได้ตื๊ด...ตื๊ด กันด้วย เป็นห้องพิเศษตรงบริเวณชั้นลอย ไม่ใหญ่มาก แต่สามารถเดินทะลุไปเชื่อมกับเทอร์เรซด้านหน้าได้

ส่วนคนที่ไม่โดนใจกับจังหวะดนตรีแนวนั้น (ไม่หรอก...กลัวเข้าไปแล้วจะหนวกหูเปล่าๆ) ก็นั่ง แหมะที่เทอร์เรซนั่นละ บรรยากาศดีนักแล มองเห็นวิวด้านล่างชัดแจ๋ว โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่คิดจะแอบหลีสาว มุมนี้เหมาะเหม็งสุดๆ แล้วละ ฝนตกก็ไม่เปียก เพราะเขาเตรียมผ้าใบกางไว้เรียบร้อย เรียกว่านั่งไปจิบเครื่องดื่มไป จะเป็นเหล้าไทย เหล้านอก หรือเบียร์เย็นฉ่ำ (เล็ก 80 บาท ใหญ่ 150 บาท) แกล้มสาวสวยไป อูย! ไม่ใช่ แกล้มส้มตำไป เพลิดเพลินจำเริญหัวใจทีเดียว อ้อ! ไม่ใช่สิ ม่วนซื่นหลายเด้อ... สิบอกไห่!?!

ส้มตำนัว

ถนนเกษตร-นวมินทร์ (มาจากแยกเกษตร จะอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงแยกลาดปลาเค้า) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงตี 1 ดนตรี อะคูสติก มีให้ฟังทุกวันเช่นกัน เช็กเวลาเล่น (แต่ละวัน) ไดที่ 02-570-0067