posttoday

เจาะปัจจัย ทำไม "ไบโอเทคจีน" เนื้อหอม บริษัทยาระดับโลกหันซบอก

11 มิถุนายน 2568

ไบโอเทคจีนขึ้นแท่นดาวเด่น! ทำไมบริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลกยอมทุ่มเงินแสนล้าน? เจาะลึกปัจจัยสำคัญ ทั้งต้นทุนวิจัย บุคลากร และโอกาสทองสำหรับสตาร์ทอัพ

 

ช่วงนี้ถ้าพูดถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี ต้องยอมรับว่า จีน ไม่ได้เป็นแค่โรงงานผลิตสินค้าอีกต่อไป แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือแม้แต่เทคโนโลยีด้านกลาโหม 

 

ล่าสุด สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ถึงคิวของ "ไบโอเทค" (Biotech) หรือเทคโนโลยีชีวภาพแห่งแดนมังกรที่กำลังผงาด และดึงดูดการลงทุนจากบริษัทยาระดับโลกด้วยเม็ดเงินมหาศาล

 

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Pfizer บริษัทยาชื่อดังระดับโลก สร้างความฮือฮาด้วยการควักกระเป๋ากว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4 หมื่นล้านบาท)

 

เพื่อขอสิทธิ์ใช้ยาต้านมะเร็งตัวใหม่ที่ยังอยู่ในระหว่างการทดลองจากบริษัท 3SBio Inc. ของจีน แถมยังลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทนี้อีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.3 พันล้านบาท) ด้วย

 

 ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Bristol-Myers Squibb อีกหนึ่งบริษัทยายักษ์ใหญ่ ก็ประกาศตามมาติดๆ ว่าจะทุ่มเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ให้กับ BioNTech SE เพื่อขอสิทธิ์ใช้ยาต้านมะเร็งที่คล้ายกัน 

 

ซึ่ง BioNTech ก็เพิ่งเข้าซื้อกิจการบริษัทจีนผู้พัฒนายาตัวนี้ไปเมื่อปลายปีที่แล้วด้วยเงิน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.6 หมื่นล้านบาท)

 

ดีลใหญ่ระดับแสนล้านบาทแบบนี้ ทำให้แวดวงการเงินและนักลงทุนคึกคักเป็นพิเศษ สังเกตได้จากดัชนีหุ้นกลุ่มไบโอเทคของฮ่องกงที่พุ่งขึ้นถึง 60% ในปีนี้ สวนทางกับดัชนีเดียวกันของสหรัฐฯ ที่กลับลดลง 6.5% 

 

สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า บริษัทยาใหญ่ๆ ทั่วโลกเริ่มมองว่าไบโอเทคจีนกำลังเป็น "ผู้เปลี่ยนเกม" สำคัญในอุตสาหกรรมยาอย่างแท้จริง

 

เจาะปัจจัย ทำไม \"ไบโอเทคจีน\" เนื้อหอม บริษัทยาระดับโลกหันซบอก

เจาะลึกปัจจัยที่ทำให้ไบโอเทคจีน "เนื้อหอม"

 

ลองมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ไบโอเทคจีนก้าวขึ้นมาเป็นที่จับตา และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจากบริษัทยาชั้นนำ:

 

  • แรงกดดันด้านค่าใช้จ่าย

 

ตอนนี้บริษัทยาทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันให้ ลดราคายา โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ภายในบริษัทเป็นเรื่องใหญ่

 

เพื่อลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ บริษัทยาใหญ่ๆ จึงหันมาหาจีน เพราะการทดลองยาในมนุษย์ระยะเริ่มต้นที่นี่ ถูกกว่าและทำได้ง่ายกว่ามาก ขณะที่มาตรฐานความปลอดภัยเทียบเท่ากับระดับสากล

 

  • แหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจากการกีดกันทางการค้า

 

ขณะที่สินค้าจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ กำลังเผชิญกับอุปสรรคทางการค้าและภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น อุตสาหกรรมไบโอเทคกลับค่อนข้างปลอดภัยจากสถานการณ์เหล่านี้ โดยเฉพาะในจีน รัฐบาลจีนยังคงเปิดรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาจากสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ยารักษามะเร็งปอดของ Pfizer หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกของ Merck ซึ่งยังคงได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีน

 

การที่จีนยังคงเป็นมิตรกับบริษัทเวชภัณฑ์เหล่านี้ ทำให้พวกเขาสามารถเจรจาข้อตกลงและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในจีนได้ง่ายขึ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมไบโอเทคยังคงเติบโตและขยายตัวในตลาดจีนได้เป็นอย่างดี

 

เจาะปัจจัย ทำไม \"ไบโอเทคจีน\" เนื้อหอม บริษัทยาระดับโลกหันซบอก

 

  • โอกาสทองสำหรับสตาร์ทอัพที่ต้องการเงินทุน

 

ในสถานการณ์ที่เม็ดเงินลงทุนในบริษัทไบโอเทคทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศจีน ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด บริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กจำนวนมากจึงประสบปัญหาในการเดินหน้าพัฒนายาด้วยตัวเอง เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน

 

ด้วยเหตุนี้ บริษัทเหล่านี้จึงจำเป็นต้องแสวงหาเงินทุนก้อนใหญ่ล่วงหน้า โดยเสนอแลกกับสิทธิ์การใช้ยา นี่จึงนับเป็น "โอกาสทอง" สำหรับบริษัทตะวันตก ที่จะเข้าลงทุนหรือเข้าซื้อหุ้นในบริษัทไบโอเทคจีนในราคาที่สามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเป็นธรรม

 

  • บุคลากรคุณภาพ ต้นทุนต่ำ

 

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จีนกำลังจะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มหาศาลจากสิ่งที่เรียกว่า "เงินปันผลจากวิศวกร" (engineer dividend) ซึ่งเป็นผลพวงจากจำนวนวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังนโยบายจำกัดการออกวีซ่าของสหรัฐฯ ทำให้นักศึกษาจีนเก่ง ๆ จำนวนมากเลือกที่จะไม่เดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ แต่กลับมาทำงานและสร้างสรรค์นวัตกรรมกับบริษัทสตาร์ทอัพดาวรุ่งในประเทศบ้านเกิดแทน

 

ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจชี้ให้เห็นว่า ในช่วงระหว่างปี 2000 ถึง 2020 จำนวนวิศวกรในจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าทึ่งจาก 5.2 ล้านคน เป็น 17.7 ล้านคน

 

นอกจากนี้ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และแพทยศาสตร์ยังคงเป็นสองสาขาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา

 

ที่สำคัญคือ ค่าตอบแทนของนักวิจัยในจีนนั้นถูกกว่าในสหรัฐอเมริกาถึงประมาณ 8 เท่า!

 

กล่าวโดยสรุปคือ จีนมีวิศวกรที่ อายุน้อย เปี่ยมด้วยความสามารถ ค่าตัวไม่แพง และมีจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมของจีนในอนาคต

 

เจาะปัจจัย ทำไม \"ไบโอเทคจีน\" เนื้อหอม บริษัทยาระดับโลกหันซบอก

 

ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มผู้ซื้อที่มองหาการลดต้นทุนและแหล่งวิจัยภายนอก ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดอย่างมาก

 

นอกจากนี้ นโยบายภาครัฐที่เอื้ออำนวย ก็มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตและนวัตกรรม รวมถึงการมี บุคลากรที่มีความสามารถในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้จีนได้เปรียบในด้านการพัฒนาและวิจัย

 

จากปัจจัยเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ อุตสาหกรรมไบโอเทคของจีนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีศักยภาพสูงที่จะก้าวขึ้นเป็น ผู้นำระดับโลกในอนาคตอันใกล้

ข่าวล่าสุด

กรมอุตุฯเตือนทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง ตกหนักสุดภาคตะวันออกร้อยละ60