Truth Social กับแผนคริปโต: การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ TMTG
Truth Social กับแผนคริปโตของ TMTG สร้างกระแสจับตาอีกครั้ง เตรียมขยายอาณาจักรสื่อสู่โลกดิจิทัลด้วยเหรียญคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชน
ในโลกที่เทคโนโลยีการเงินพัฒนาอย่างรวดเร็ว สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซีได้กลายเป็นจุดสนใจหลักของทั้งนักลงทุนรายย่อยและผู้มีอำนาจทางการเมือง ล่าสุดบริษัท Trump Media & Technology Group (TMTG) เจ้าของแพลตฟอร์ม Truth Social กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งหลัง Financial Times รายงานว่า TMTG มีแผนระดมทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์เพื่อเข้าสู่ตลาดคริปโตเต็มตัว
แม้ข่าวนี้จะสร้างความตื่นตัวให้กับวงการการเงินดิจิทัล แต่ก็จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสของรัฐบาลและครอบครัวผู้นำ ขณะเดียวกัน กระแสความสนใจในคริปโตในหมู่ประชาชนก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างง่ายและสะดวก เช่น การซื้อคริปโตด้วยบัตรเครดิตผ่านกระดานเทรดที่น่าเชื่อถือซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายและรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากของการโอนเงินผ่านธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินต่าง ๆ
การเคลื่อนไหวของ TMTG ยิ่งน่าสนใจขึ้นเมื่อทราบว่าโดนัลด์ ทรัมป์ได้โอนหุ้นในบริษัทไปยัง Revocable Trust โดยมีบุตรชายคือทรัมป์ จูเนียร์เป็นผู้ควบคุมหลังจากเขาชนะเลือกตั้งและกลับสู่ตำแหน่งในวาระที่ 2 เมื่อปีก่อน จุดนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยในวงกว้างถึงความเป็นไปได้ของผลประโยชน์ทับซ้อน
TMTG ตอบโต้รายงานของ Financial Times ว่า “ดูเหมือนว่า Financial Times มีนักข่าวที่โง่เง่าฟังแต่แหล่งข่าวที่โง่กว่า” โดยไม่ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม โฆษกทำเนียบขาวและตัวแทนของทรัมป์ จูเนียร์ปฏิเสธในการแสดงความคิดเห็นขณะที่ TMTG กล่าวหาสำนักข่าวว่าเป็น “ข่าวปลอม” เมื่อตอบคำถามจาก Reuters
ศาสตราจารย์อลิซาเบธ เชปพาร์ด เซลแลม จากมหาวิทยาลัยตูร์ ประเทศฝรั่งเศสชี้ว่าสิ่งที่น่ากังวลคือ “ใครได้ประโยชน์จากโครงการนี้” ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดี เธอยังระบุว่าทรัมป์ จูเนียร์และเอริก ทรัมป์มีหมายกำหนดการณ์ที่จะขึ้นพูดในงาน Bitcoin 2025 ที่ลาสเวกัสร่วมกับนักการเมืองและผู้มีบทบาทในคริปโต
กระแสวิจารณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นหลังจากทรัมป์เข้าร่วมงานเลี้ยงกับนักลงทุนในเหรียญมีมของเขาเองที่สนามกอล์ฟเวอร์จิเนียท่ามกลางเสียงประท้วงว่า “อเมริกาไม่ใช่ของขาย” และ “ทรัมป์คือคนทรยศ” การออกคำสั่งบริหารที่เอื้อคริปโตและการยุบหน่วยสอบสวนอาชญากรรมในสินทรัพย์ดิจิทัลยิ่งตอกย้ำข้อกล่าวหานี้
นักเศรษฐศาสตร์ฟลอเรียน ฮอลเลนบาคจาก Copenhagen Business School ให้ความเห็นว่า “มีการทุจริตมากมายและก็ทำกันอย่างเปิดเผย” สังคมยังคงตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของนโยบายที่อาจส่งผลต่อทั้งตลาดและผลประโยชน์ของคนในครอบครัวผู้นำ
แม้กรณี TMTG จะสร้างความไม่สบายใจในเชิงจริยธรรมทางการเมือง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของโลกคริปโต และโอกาสของนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการมีส่วนร่วมในตลาดนี้ได้อย่างปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่าย
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของ TMTG ยังสะท้อนถึงอิทธิพลของทรัมป์ที่มีต่อตลาดคริปโต การผสมผสานระหว่างผลประโยชน์ทางธุรกิจ และอำนาจทางการเมืองในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองโดยรวม ทั้งยังตอกย้ำคำถามเดิมว่าผู้นำประเทศควรมีบทบาทในกิจกรรมทางธุรกิจที่ส่งผลต่อตลาดการเงินมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อมีสมาชิกในครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด