"สันติธาร" เตือน สงครามการค้าสหรัฐฯ ยังไม่จบ ไทยต้องเตรียมรับมือ
ดร.สันติธาร เสถียรไทย กรรมการ กนง. โพสต์ถึงประเด็นร้อนภาษีสหรัฐฯ ชี้ "สงครามการค้ายังไม่หายไปไหน" ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับความผันผวนด้านนโยบายการค้าต่างประเทศ
สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ต่อประเด็นภาษีสหรัฐฯ โดยระบุว่า
เพิ่งเมื่อวานที่ศาลสหรัฐฯสั่งเบรคภาษีนำเข้า
แต่หายใจได้แค่หนึ่งวัน วันนี้กำแพงภาษีกลับมา “ออน” อีกครั้ง
ศึกนี้เต็มไปด้วยการหักมุม Twists and Turns — สงครามการค้ายังไม่หายไปไหน
Timeline ล่าสุดของเรื่องนี้:
28 พ.ค. 2025:
ศาลการค้าระหว่างประเทศ (CIT) สั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติการเก็บภาษีที่ใช้กฎหมาย IEEPA เป็นฐาน
- ชี้ว่าการขาดดุลการค้าไม่ใช่ “ภัยฉุกเฉินที่ผิดปกติและรุนแรง” ตามที่กฎหมายกำหนด
- สั่งระงับภาษีนำเข้าเช่น ภาษี 10% ทั่วกระดาน, 20% จีน, 25% แคนาดา/เม็กซิโก
แต่ไม่กระทบภาษีรายอุตสาหกรรม (sectoral tariffs) ภายใต้กฎหมายอื่น เช่น มาตรา 232 (เช่น เหล็ก รถยนต์ อะลูมิเนียม)
29 พ.ค. 2025:
ศาลอุทธรณ์กลางออกคำสั่ง “ระงับคำตัดสินของ CIT ชั่วคราว”
- ทำให้รัฐบาลยังสามารถเก็บภาษีตามเดิมต่อไปได้ระหว่างรอการอุทธรณ์
- ฝ่ายโจทก์มีเวลายื่นคัดค้านถึง 5 มิ.ย. / ฝ่ายรัฐบาลต้องยื่นคำชี้แจงภายใน 9 มิ.ย.
ผลกระทบระยะสั้น:
- ภาษีนำเข้าชุดใหญ่ของทรัมป์ ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปชั่วคราว
- เปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหาร “ยื้อเวลา” พร้อมพิจารณาใช้กฎหมายอื่นแทน IEEPA
คำถามสำคัญคือแล้วรัฐบาลสหรัฐฯอาจทำอะไรต่อ?
เท่าที่อ่านบทวิเคราะห์ต่างๆ เข้าใจว่าต่อให้สมมติว่า สุดท้าย IEEPA ถูกตีตก
ฝ่ายบริหารยังสามารถใช้อำนาจภายใต้กฎหมายอื่นเพื่อเดินหน้ายุทธศาสตร์ภาษีได้:
1. มาตรา 122 ของกฎหมายการค้า 1974
-ใช้ได้ทันที ไม่ต้องสอบสวน
-เก็บภาษีได้สูงสุด 15% เป็นเวลา 150 วัน
-ต้องขออนุมัติรัฐสภาหากต้องการต่ออายุ
-คาดว่าอาจใช้แทนภาษี 10% ที่ถูกระงับ
2. มาตรา 301
-ใช้ตอบโต้ “การค้าที่ไม่เป็นธรรม” เช่น การอุดหนุน หรือขโมยเทคโนโลยี
-ไม่มีเพดานหรือข้อจำกัดด้านเวลา แต่ต้องผ่านการสอบสวนก่อน
-เหมาะกับการเจาะเป้าหมายประเทศคู่ค้ารายใหญ่
3. มาตรา 232
-ใช้เหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ”
-เคยใช้กับเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ อาจขยายสู่ยาหรืออิเล็กทรอนิกส์ หรือกว้างกว่านั้น
4. มาตรา 338 (Trade Act 1930)
-อนุญาตให้เก็บภาษีสูงสุด 50% หากประเทศนั้นเลือกปฏิบัติต่อสหรัฐฯ
-ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดใช้มาก่อน
สรุป
แม้จะเสียหมาก IEEPA จากศาลชั้นต้น แต่คำสั่งศาลอุทธรณ์ล่าสุดทำให้รัฐบาลทรัมป์ยังคงเดินหน้าต่อได้
เช่น ในระยะสั้น อาจใช้ มาตรา 122 ออกภาษีใหม่ทันที
ในระยะยาว อาจเปิดแนวรบใหม่ผ่าน มาตรา 301 และ 232 เพื่อสร้าง “ระบบภาษีถาวร” ที่เจาะลึกและรัดกุมกว่าเดิม
สิ่งที่แน่นอนคือ “ความไม่แน่นอน” ที่เกิดขึ้นจากที่ไกลตัว แต่ดันมีผลกระทบใกล้ตัวมาก
คน-ธุรกิจ-ประเทศต้องเตรียมรับมืออยู่เสมอ
สงครามการค้าอาจเปลี่ยนรูปแบบ ต้องใช้กระบวนท่ายากและซับซ้อนขึ้น แต่ยังไม่จบแน่นอน
คงต้องตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะคำถามสำคัญหนึ่งคือ
หากเขาไม่ได้มี ‘กระสุนกีดกันการค้า’แบบไม่จำกัดแบบเดิมแล้ว
รัฐบาลสหรัฐฯจะเลือกใช้กับประเทศไหนบ้าง อุตสาหกรรมใดบ้าง
และประเทศไทยอยู่ตรงไหนในเรดาห์


