posttoday

"สันติธาร" เตือน สงครามการค้าสหรัฐฯ ยังไม่จบ ไทยต้องเตรียมรับมือ

30 พฤษภาคม 2568

ดร.สันติธาร เสถียรไทย กรรมการ กนง. โพสต์ถึงประเด็นร้อนภาษีสหรัฐฯ ชี้ "สงครามการค้ายังไม่หายไปไหน" ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับความผันผวนด้านนโยบายการค้าต่างประเทศ

 

สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ต่อประเด็นภาษีสหรัฐฯ โดยระบุว่า

 

เพิ่งเมื่อวานที่ศาลสหรัฐฯสั่งเบรคภาษีนำเข้า

 

แต่หายใจได้แค่หนึ่งวัน วันนี้กำแพงภาษีกลับมา “ออน” อีกครั้ง

ศึกนี้เต็มไปด้วยการหักมุม Twists and Turns — สงครามการค้ายังไม่หายไปไหน

 

Timeline ล่าสุดของเรื่องนี้:

28 พ.ค. 2025:

ศาลการค้าระหว่างประเทศ (CIT) สั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยุติการเก็บภาษีที่ใช้กฎหมาย IEEPA เป็นฐาน

 

  • ชี้ว่าการขาดดุลการค้าไม่ใช่ “ภัยฉุกเฉินที่ผิดปกติและรุนแรง” ตามที่กฎหมายกำหนด
  • สั่งระงับภาษีนำเข้าเช่น ภาษี 10% ทั่วกระดาน, 20% จีน, 25% แคนาดา/เม็กซิโก

 

แต่ไม่กระทบภาษีรายอุตสาหกรรม (sectoral tariffs) ภายใต้กฎหมายอื่น เช่น มาตรา 232 (เช่น เหล็ก รถยนต์ อะลูมิเนียม)

 

29 พ.ค. 2025:

ศาลอุทธรณ์กลางออกคำสั่ง “ระงับคำตัดสินของ CIT ชั่วคราว”

  • ทำให้รัฐบาลยังสามารถเก็บภาษีตามเดิมต่อไปได้ระหว่างรอการอุทธรณ์
  • ฝ่ายโจทก์มีเวลายื่นคัดค้านถึง 5 มิ.ย. / ฝ่ายรัฐบาลต้องยื่นคำชี้แจงภายใน 9 มิ.ย.

 

ผลกระทบระยะสั้น:

  • ภาษีนำเข้าชุดใหญ่ของทรัมป์ ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปชั่วคราว
  • เปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหาร “ยื้อเวลา” พร้อมพิจารณาใช้กฎหมายอื่นแทน IEEPA

 

 

คำถามสำคัญคือแล้วรัฐบาลสหรัฐฯอาจทำอะไรต่อ?

 

เท่าที่อ่านบทวิเคราะห์ต่างๆ เข้าใจว่าต่อให้สมมติว่า สุดท้าย IEEPA ถูกตีตก

ฝ่ายบริหารยังสามารถใช้อำนาจภายใต้กฎหมายอื่นเพื่อเดินหน้ายุทธศาสตร์ภาษีได้:

 

1. มาตรา 122 ของกฎหมายการค้า 1974

-ใช้ได้ทันที ไม่ต้องสอบสวน

-เก็บภาษีได้สูงสุด 15% เป็นเวลา 150 วัน

-ต้องขออนุมัติรัฐสภาหากต้องการต่ออายุ

-คาดว่าอาจใช้แทนภาษี 10% ที่ถูกระงับ

 

2. มาตรา 301

-ใช้ตอบโต้ “การค้าที่ไม่เป็นธรรม” เช่น การอุดหนุน หรือขโมยเทคโนโลยี

-ไม่มีเพดานหรือข้อจำกัดด้านเวลา แต่ต้องผ่านการสอบสวนก่อน

-เหมาะกับการเจาะเป้าหมายประเทศคู่ค้ารายใหญ่

 

3. มาตรา 232

-ใช้เหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ”

-เคยใช้กับเหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ อาจขยายสู่ยาหรืออิเล็กทรอนิกส์ หรือกว้างกว่านั้น

 

4. มาตรา 338 (Trade Act 1930)

-อนุญาตให้เก็บภาษีสูงสุด 50% หากประเทศนั้นเลือกปฏิบัติต่อสหรัฐฯ

-ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดใช้มาก่อน

 

 

สรุป

 

แม้จะเสียหมาก IEEPA จากศาลชั้นต้น แต่คำสั่งศาลอุทธรณ์ล่าสุดทำให้รัฐบาลทรัมป์ยังคงเดินหน้าต่อได้

 

เช่น ในระยะสั้น อาจใช้ มาตรา 122 ออกภาษีใหม่ทันที

 

ในระยะยาว อาจเปิดแนวรบใหม่ผ่าน มาตรา 301 และ 232 เพื่อสร้าง “ระบบภาษีถาวร” ที่เจาะลึกและรัดกุมกว่าเดิม

 

สิ่งที่แน่นอนคือ “ความไม่แน่นอน” ที่เกิดขึ้นจากที่ไกลตัว แต่ดันมีผลกระทบใกล้ตัวมาก

 

คน-ธุรกิจ-ประเทศต้องเตรียมรับมืออยู่เสมอ

 

สงครามการค้าอาจเปลี่ยนรูปแบบ ต้องใช้กระบวนท่ายากและซับซ้อนขึ้น แต่ยังไม่จบแน่นอน

 

คงต้องตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะคำถามสำคัญหนึ่งคือ

 

หากเขาไม่ได้มี ‘กระสุนกีดกันการค้า’แบบไม่จำกัดแบบเดิมแล้ว

 

รัฐบาลสหรัฐฯจะเลือกใช้กับประเทศไหนบ้าง อุตสาหกรรมใดบ้าง

 

และประเทศไทยอยู่ตรงไหนในเรดาห์

 

ข่าวล่าสุด

เสนอพรรคการเมือง 3 ทางออก ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ต้อง 'ห้ามซื้อขาย' เด็ดขาด