เปิดราคาประมูลคลื่นมือถือรอบใหม่รวดเดียว 6 คลื่น มูลค่า 1.2 แสนล้าน
สำนักงานกสทช.เปิดราคาเริ่มต้นประมูลคลื่นมือถือพร้อมกัน 6 คลื่น มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เดินหน้าเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ 6 ก.พ.นี้ เผยเงื่อนไขผู้ชนะต้องแบ่งคลื่นให้ MVNO เกิด พร้อมส่งแผนภัยไซเบอร์และการรักษาข้อมูลลูกค้าให้กสทช.ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนเปิดบริการ
นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันที่ 6 ก.พ.2568 สำนักงานกสทช.จะเปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล สากล ย่าน 850 MHz, 1500 MHz , 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz และ 26 GHz ณ โรงแรมอัศวิน สำหรับราคาเริ่มต้นการประมูลแต่ละคลื่นได้ประกาศลงเว็บไซต์กสทช.เรียบร้อยแล้ว
การเปิดรับฟังความคิดเห็นจะมีการเสนอให้ผู้ชนะประมูลต้องแบ่งคลื่นความถี่ไว้ตรงกลางกับหน่วยงานกลาง เพื่อเป็นตัวประสานหรือต่อรองราคาค่าบริการ ในการสนับสนุนให้ผู้ให้บริการที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง หรือ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) สามารถทำธุรกิจได้ เนื่องจากที่ผ่านมาการติดต่อขอซื้อคลื่นความถี่ในแต่ละค่ายมือถือด้วยกันเองนั้นมีสัญญาและราคาที่แตกต่างกัน ทำให้ธุรกิจ MVNO ไปต่อไม่ได้ ด้วยต้นทุนที่สูงเกินไป แต่ MVNO จะเป็นธุรกิจที่เข้าไปทำตลาดในกลุ่มที่ค่ายมือถือใหญ่ไม่สนใจทำตลาด และ MVNO สามารถเสนอราคาและโปรโมชันที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะได้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเว็บไซต์กสทช.พบว่า คลื่นที่นำมาประมูล 6 คลื่น รวมการเปิดประมูลครั้งนี้ทั้งสิ้นจำนวน 450 MHz มูลค่า 121,026 ล้านบาท ประกอบด้วย
คลื่น 850 MHz จำนวน 2 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้น 6,609 ล้านบาท
คลื่น 1500 MHz จำนวน 11 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 MHz ราคาเริ่มต้น 904 ล้านบาท
คลื่น 1800 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้น 6,219 ล้านบาท
คลื่น 2100 MHz (FDD) จำนวน 12 ชุด ความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้น 3,391 ล้านบาท
คลื่น 2100 MHz (TDD) จำนวน 3 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 MHz ราคาเริ่มต้น 497 ล้านบาท
คลื่น 2300 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 MHz ราคาเริ่มต้น 1,675 ล้านบาท
คลื่น26 GHz จำนวน 1 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 100 MHz ราคาเริ่มต้น 423 ล้านบาท
สำหรับผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีแผนรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และแผนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยจัดให้มีกลไกในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามข้อกำหนดของกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อสร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูลและโครงข่ายโทรคมนาคม และป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดส่งแผน ต่อสำนักงาน กสทช. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนเริ่มให้บริการ