พบ 11 แอปกู้เงินต้องสงสัยเถื่อน ดีอีเร่งตรวจสอบแบงก์ชาติ จ่อปิดเร็วที่สุด
กระทรวงดีอี เผย พบ 11 แอปกู้เงินต้องสงสัยผิดกฎหมาย เกลื่อนเพลย์ สโตร์ เร่งประสานแบงก์ชาติขอคำตอบ ชี้หากผิดจริง พร้อมเดินหน้าประสานกูเกิลปิดทันที ส่วนความคืบหน้าผู้เสียหายแอปกู้เงินมีผู้ร้องเรียนเพิ่มจาก 11 ราย เป็น 40 รายแล้ว
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากกรณี OPPO และ Realme มีการโหลดแอปพลิเคชันเงินกู้ผิดกฎหมายให้ลูกค้าตั้งแต่โรงงาน กระทรวงดีอี ทั้ง สคส.และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ขยายผลเกี่ยวกับแอปเงินกู้เพิ่มเติม
พบว่า ในกูเกิล เพลย์สโตร์ มี 11 แอปพลิเคชันที่ต้องสงสัยว่าผิดกฎหมาย จึงได้ส่งข้อมูลไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งผลการตรวจสอบจากแบงก์ชาติ แต่อย่างใด หากพบว่า 11 แอปเงินกู้ ดังกล่าว ผิดกฎหมาย โดยได้รับคำยืนยันจากแบงก์ชาติอย่างเป็นทางการ กระทรวงดีอีจะประสานไปยังกูเกิลเพื่อให้ปิดกั้นแอปพลิเคชันดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าผู้เสียหายกรณีถูกติดตั้งแอปเงินกู้ ล่าสุดมีผู้เสียหายร้องเรียนเพิ่มจาก 11 ราย เป็น 40 ราย โดยจะต้องนำข้อมูลให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและกำหนดโทษปรับต่อไป นอกจากนี้ทั้ง สคส.และ สกมช.ได้ทำงานอย่างเข้มข้นในการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายในตลาดของ OPPO และ Realme ว่ายังมีแอปเงินกู้เถื่อนอยู่ในเครื่องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ หน้าเว็บไซต์ ธปท. พบว่า แอปพลิเคชัน สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจาก แบงก์ชาติ อย่างถูกต้อง มีแค่ 10 รายเท่านั้น ประกอบด้วย
บริษัท ซีมันนี่ (แคปปิตอล) จำกัด
บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด
บริษัท จีฟิน เซอร์วิสเซส (ที) จำกัด
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด
บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท แรบบิท แคช จำกัด


