6 เดือนแรก ต่างชาติลงทุนไทยเฉียด 5 หมื่นล้าน ญี่ปุ่นครองแชมป์ 1.7 หมื่นล้าน
DBD เผย ครึ่งปีแรก ปี 2566 ต่างชาติขนเงินลงทุนในไทยกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท ญี่ปุ่นรั้งอันดับ1 ลงทุนมากที่สุดกว่า 1.75 หมื่นล้าน ตามด้วย จีน 1.15 หมื่นล้าน และสิงคโปร์ 6.91 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 3.22 พันคน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(DBD) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม - มิถุนายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 326 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 102 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 224 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 48,927 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,222 คน
ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 74 ราย หรือคิดเป็น 23% เงินลงทุน 17,527 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 59 ราย 18% เงินลงทุน 2,913 ล้านบาท สิงคโปร์ 53 ราย 16% เงินลงทุน 6,916 ล้านบาท จีน 24 ราย 7% เงินลงทุน 11,505 ล้านบาท และ สมาพันธรัฐสวิส 14 ราย หรือ 4% เงินลงทุน 1,857 ล้านบาท
โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาในการใช้งานยางล้ออากาศยาน เป็นต้น
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 42 ราย คิดเป็น 15% เดือน ม.ค. - มิ.ย. 66 อนุญาต 326 ราย / เดือน ม.ค. - มิ.ย. 65 อนุญาต 284 ราย มูลค่าการลงทุนลดลง 21,022 ล้านบาท คิดเป็น 30% เดือน ม.ค. - มิ.ย. 66 ลงทุน 48,927 ล้านบาท / เดือน ม.ค. - มิ.ย. 65 ลงทุน 69,949 ล้านบาท และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 49 ราย 1% เดือน ม.ค.- มิ.ย. 66 จ้างงาน 3,222 คน / เดือน ม.ค. - มิ.ย. 65 จ้างงาน 3,173 คน โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565
ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ
* บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
* บริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง
* บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน ตลอดจนการบริหารจัดการสำหรับโครงการรถไฟฟ้า
* บริการก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ/สถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก
* บริการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสำหรับที่ใช้ในสถานพยาบาล
* บริการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENT
* บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ
การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 61 ราย คิดเป็น 19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC
10,771 ล้านบาท คิดเป็น 22% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 26 ราย ลงทุน 4,344
ล้านบาท จีน 9 ราย ลงทุน 752 ล้านบาท เกาหลีใต้ 5 ราย ลงทุน 286 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 21 ราย ลงทุน 5,388 ล้านบาท
ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ
1) บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิต
ในอุตสาหกรรมต่างๆ
2) บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์
3) บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม
4) บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะและ
5) การค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ
เฉพาะเดือนมิถุนายน 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 52 ราย เป็นการลงทุนผ่านการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 15 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 37 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,535 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 223 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน และองค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
* บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
* บริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง
* บริการทางวิศวกรรม โดยการให้คำปรึกษาแนะนำ วางแผน ตรวจสอบ บริหารจัดการงานออกแบบ และงานโยธาก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน* บริการรับจ้างออกแบบผลิตภัณฑ์ Filter
* บริการกิจการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENT
* บริการทางวิศวกรรมและทางเทคนิค เช่น การออกแบบและการวางระบบ การวางแผนการติดตั้งอุปกรณ์ รวมถึงการติดตั้ง การบำรุงรักษาและซ่อมแซม ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม พลังงาน และระบบความปลอดภัย เป็นต้น


