กระทรวงพลังงาน เปิดต้นแบบอาคารอัจฉริยะต้น “เดอะ ปาร์ค”
ส่องโครงการ “เดอะ ปาร์ค” อาคารอัจฉริยะต้นแบบของไทย ชูจุดเด่น ผสานเทคโนโลยี ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม มุ่งประหยัดพลังงาน
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาพลังงานฯได้ดำเนินโครงการ “เดอะ ปาร์ค”(The PARQ) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อพัฒนาเป็นออฟฟิศและรีเทลอัจฉริยะ ภายใต้แนวคิด Life Well Balanced ภายใต้การออกแบบที่คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน สู่การเป็นอาคารอัจฉริยะต้นแบบของประเทศไทย
สำหรับโครงการดังกล่าว นับเป็นหนึ่งในอาคารที่เป็นไปตามแนวทางการส่งเสริมของ กรมพัฒนาพลังงานฯที่ต้องการให้อาคารขนาดใหญ่มีการคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในอาคาร มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน อาทิ ระบบส่องสว่าง ระบบทำความเย็น มาใช้ในอาคาร
รวมถึงการใช้เทคโนโลยีผสมผสานกับระบบควบคุมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกันผ่านระบบ Internet of Things (IoT) และ โมบายล์ แอปพลิเคชัน ทำให้ “เดอะ ปาร์ค” นับเป็นอาคารอัจฉริยะต้นแบบของประเทศไทย ที่มีการบริหารจัดการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร
ส่วนการออกแบบนั้น มีการติดฉนวนและกระจกอินซูเลทกรองแสงสามชั้น เพื่อช่วยกันความร้อน จากแสงอาทิตย์ได้มากถึง 75% สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติ รวมถึงยังมีระบบ Smart Connected Lighting ที่ช่วยปรับแสงสว่างภายในสำนักงานให้เหมาะสมเพื่อให้แสงธรรมชาติเพียงพอ ส่องเข้าอาคารทำให้สามารถประหยัดการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งระบบส่องสว่างและระบบทำความเย็นจาก Chiller Plant ซึ่งเป็นเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง จะทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ด้วยการควบคุมการทำงานของระบบทำความเย็นแบบ Low Flow Low Temperature
นอกจากนี้ ระบบแสงสว่างในอาคารยังได้ติดตั้งหลอด LED ทั้งอาคาร รวมถึงติดเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้ใช้งาน และปริมาณแสงสว่างธรรมชาติในพื้นที่ โดยใช้ระบบควบคุมผ่าน โมบายล์ แอปพลิเคชัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมแสงสว่างแบบรีโมท ผ่านโทรศัพท์มือถือ จึงสะดวกต่อการใช้งาน ที่สำคัญการออกแบบอาคารยังคำนึงถึงการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบให้มีพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า 30% ทำให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 7,000 ตารางเมตร กระจายทั่วทั้งโครงการ
ขณะเดียวกัน ยังมีการเลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำควบคู่กับการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ดูแลพื้นที่สวน และยังมีการติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศภายในอาคารที่สูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 30% ตลอดจนระบบ กรองอากาศสองชั้นเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 และ PM10 รวมถึงยังมีระบบบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ทั้งการแยกขยะโดยการบีบอัดในระบบปิดเพื่อช่วยลดพื้นที่จัดเก็บขยะภายในอาคาร


