หุ้นไทยไร้แนวรับทรุดหนักดัชนีลบ134.98จุด
หุ้นไทยผันผวนหนักดัชนีดิ่ง 10% จนต้องหยุดพักการซื้อขาย แต่ก็กลับมาก็ยังตกต่อเมินกองทุนพยุงหุ้นของรัฐบาล
การซื้่อขายหุ้นไทยวันที่ 12 มี.ค. 2563 ปิดตลาดช่วงบ่าย ดัชนีปิดที่ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด หรือ ลดลง 10.80% มูลค่าการซื้อขาย 101,652.04 แสนล้านบาท เนื่องจากการกังวลการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ระบาดจนส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
การซื้อขายในช่วงเช้าตลาดเปิดดัชนีปรับลดลงทุนทีกว่า 70 จุุด และในช่วงบ่ายดัชนีลดลง ลดลง 125.05 จุด หรือ คิดเป็น 10% ทำให้ต้องมีการหยุดซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรคเกอร์) 30 นาที เมื่อเวลา 14.38 น. และเมื่อกลับมาซื้อขายดัชนีก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ดัชนีลดต่ำสุด 154 จุด หรือ ประมาณ 12% ในระหว่างการซื้อขาย
ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน หรือ กองทุนพยุงหุ้น ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เพราะการตั้งกองทุนยังไม่มีความชัดเจน
นอกจากนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ก็ได้สั่งการให้ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาชี้แจงเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนหลังการซื้อขายในช่วงเช้าปิดลง แต่การซื้อขายหุ้นในช่วงบ่ายก็ยังตกลงต่อเนื่อง
สำหรับมูลการซื้อขาย 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
AOT ราคา 52.75 บาท ลดลง 7.75 บาท หรือ ลดลง 12.81%
PTT ราคา 26.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ ลดลง 9.40%
CPALL ราคา 61.75 บาท ลดลง 4.25 บาท หรือลดลง 6.44%
BAM ราคา 20.30 บาท ลดลง 3.20 บาท หรือ ลดลง 13.62%
GULF ราคา 131.00 บาท ลดลง 20.50 บาท หรือ ลดลง 13.53%
PTTEP ราคา 60.00 บาท ลดลง 12.25 บาท หรือ ลดลง 16.96%
ADVANC ราคา 173.50 บาท ลดลง 11.50 บาท หรือ ลดลง -6.22%
SCB ราคา 66.25 บาท ลดลง 7.50 บาท หรือ ลดลง 10.17%
KBANK ราคา 95.50 บาท ลดลง 10.00 บาท หรือลดลง -9.48%
SCC ราคา 279.00 บาท ลดลง 33.00 บาท หรือ ลดลง 10.58%


