ธปท.จี้รัฐเร่งเพิ่มผลิตภาพยกระดับเศรษฐกิจด่วน
ธปท. ชี้ ผลิตภาพที่เป็นหัวใจสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย อยู่ระดับต่ำ เร่งรัฐแก้ไขด่วน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า productivity หรือ ผลิตภาพ จะเป็นตัวกำหนดศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งผลิตภาพมีความสำคัญกับเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีของคนไทยทุกคน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยมีปัญหาด้านผลิตภาพที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ 5 เรื่อง และนำเสนอ
ปัญหาประการแรก ผลิตภาพโดยรวมของเศรษฐกิจไทยค่อนข้างต่ำและไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ในขณะที่ประเทศอื่นมีพัฒนาการด้านผลิตภาพไปเร็วกว่ามาก ตัวอย่างเช่น เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผลิตภาพของไทยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับมาเลเซีย และอยู่ในระดับสูงกว่าอินเดียประมาณ40% แต่ปัจจุบันผลิตภาพโดยรวมของมาเลเซียเพิ่มสูงขึ้นและสูงกว่าไทยถึง 30% ขณะที่ผลิตภาพของอินเดียปรับมาเทียบเท่าผลิตภาพของไทยแล้ว ปัญหาประการที่สอง แรงงานจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของแรงงานไทย 38 ล้านคน อยู่ในภาคการเกษตรที่มีผลิตภาพต่ำและเติบโตชะลอลง เพิ่มขึ้นช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน อินโดนีเซีย อินเดีย หรือเวียดนาม แรงงานภาคการเกษตรทักษะต่ำย้ายไปสู่อุตสาหกรมสูงไม่ได้ ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนรุนแรงขึ้น และสร้างจุดเปราะบางที่อาจจะนำไปสู่ปัญหาเสถียรภาพทางสังคมได้
ปัญหาประการที่สาม ช่องว่างของผลิตภาพระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการ SME กว้างขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการ SME ไม่สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ เกิดปรากฏการณ์ปลาใหญ่กินปลาเล็กรุนแรงขึ้น เมื่อธุรกิจ SME ซึ่งเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยไม่สามารถแข่งขันได้ ค่าจ้างแรงงานจะถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำ เป็นอีกสาเหตุที่ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
ปัญหาประการที่สี่ ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับกฎเกณฑ์ข้อบังคับของทางการที่ซ้ำซ้อนหรือล้าสมัย งานวิจัยของ TDRI พบว่าทุกวันนี้เรามีกฎระเบียบข้อบังคับกว่า 100,000 ฉบับ และกฎระเบียบจำนวนมากไม่สอดคล้องกับบริบทของเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันและโลกใหม่ที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ปัญหาประการที่ห้า นโยบายของภาครัฐหลายเรื่องที่สะสมต่อเนื่องมาจากอดีตไม่เอื้อต่อการพัฒนาผลิตภาพของผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น นโยบายที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจไทย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลิตภาพในหลายอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ เพราะผู้ประกอบการที่มีอำนาจผูกขาดไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตหรือคิดค้นนวัตกรรม ในหลายกรณี การประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจหรือกฎเกณฑ์จากภาครัฐเอง ส่งเสริมให้เกิดการผูกขาด ทำให้ผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายมีอำนาจเหนือตลาด เช่น กฎเกณฑ์กำหนดการลงทุนและกำลังการผลิตขั้นต่ำของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเบียร์ ทำให้โรงเบียร์ขนาดเล็กไม่สามารถจัดตั้งได้ หรือการจำกัดจำนวนใบอนุญาตเปิดโรงรับจำนำในกรุงเทพฯ ทำให้สถานธนานุบาลของรัฐมีกำไรสูงถึง 58% ในปี 2553 และคาดว่าตัวเลขนี้น่าจะสูงขึ้นอีกสำหรับโรงรับจำนำเอกชนที่ได้รับใบอนุญาต
นายวิรไท กล่าวว่า ปัญหาผลิตภาพต่ำและเพิ่มขึ้นช้าของเศรษฐกิจไทย ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังโดยเร็วแล้ว จะยิ่งส่งผลรุนแรงขึ้นในอนาคต เพราะการแข่งขันในตลาดโลกจะทวีความรุนแรงขึ้นมาก การเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัยได้ทำให้จำนวนคนไทยในวัยทำงานลดลงต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว และจะลดลงเร็วขึ้นอีก ซึ่งรัฐบาลต้องเพิ่มผลิตภาพรายย่อยและแรงงานทักษะต่ำ พัฒนาเทคโนโลยี และภาครัฐต้องเร่งลดอุปสรรคต่าง ๆ เพิ่มผลิตภาพในกระบวนการทำงานของภาครัฐ และส่งเสริมการทำงานของระบบตลาด เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของธุรกิจไทยและการใช้ชีวิตของคนไทยมีผลิตภาพสูงสุด


