posttoday

บี.กริม ลุ้นคว้าโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ลอยน้ำ เขื่อนสิรินธร จ.อุบลฯ

08 พฤศจิกายน 2562

กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ของกฟผ. ก่อสร้างบนพื้นที่ผิวน้ำเนื้อที่กว่า 450 ไร่

กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ของกฟผ. ก่อสร้างบนพื้นที่ผิวน้ำเนื้อที่กว่า 450 ไร่

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบวงเงินลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนแบบไฮบริด เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro-Floating Solar) พื้นที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยมีขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ เพื่อให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดบนทุ่นลอยน้ำบนพื้นที่ผิวน้ำเนื้อที่กว่า 450 ไร่ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เปิดให้เอกชนด้านพลังงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศยื่นซองประมูลราคาไปเมื่อ 20 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา

ในวันที่ 7 พ.ย. 2562 ปรากฎว่า ขั้นตอนการเปิดซองประกวดราคาโครงการดังกล่าว บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ( BGRIM)พร้อมด้วยพันธมิตร China Energy Engineering Corporation ในนาม B.GRIMM POWER - ENERGY CHINA CONSORTIUM ได้เป็นผู้เสนอราคาประมูลโครงการที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ร่วมประมูลรายอื่นที่ต่างได้ผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติทางเทคนิคจากกฟผ.มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะต้องรอให้กฟผ. ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อพิจารณาในรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนการสรุปและรับทราบผลการคัดเลือกผู้พัฒนาโครงการอย่างเป็นทางการให้กับกฟผ.ต่อไป

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ให้ความเห็นว่าบริษัทฯ เน้นหลักการสำคัญ คือ จะต้องสร้างจัดการ และบริหารโรงไฟฟ้าที่ดี มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ ในงบประมาณที่เหมาะสมที่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ตามประเภทและวัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งนั้นๆ

ซึ่ง BGRIM เล็งเห็นว่า เพื่อสร้างโอกาสและความแข็งแกร่งในการพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมตามแผนพัฒนากำลังผลิตพลังไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับปัจจุบัน (PDP2018) ที่กำหนดให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ ประเภท พลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำมีขนาดกำลังการผลิตตาม PDP สูงถึง 2,725 เมกะวัตต์

การที่ BGRIM เข้าแข่งขันและหากได้รับโอกาสในการพัฒนาและสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำให้กับกฟผ.ได้ต่อไปในครั้งนี้ จะถือเป็นการเพิ่มศักยภาพ และมาตรฐานในการพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท

ทั้งนี้ BGRIM มีประสบการณ์ในฐานะที่เป็นบริษัทเอกชนผู้นำในด้านการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าที่มีมาตรฐานสูงให้กับกฟผ.มาอย่างยาวนาน ประกอบกับการบริหารงานด้วยความเป็นมืออาชีพในธุรกิจพลังงานอันเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจและมีความพร้อมอย่างยิ่งในการลงทุน การออกแบบ พัฒนา และการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ตามจำนวนกำลังการผลิตที่ PDP กำหนด

อีกทั้ง การที่บริษัทฯร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก Energy China ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่ง หนี่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มี
ศักยภาพและความได้เปรียบสูงในการบริหารจัดการต้นทุน การจัดหาวัสดุอุปกรณ์และการพัฒนาเทคนิควิศวกรรมที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการพัฒนาและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

"หากได้รับโอกาสและความไว้วางใจในการพัฒนาการก่อสร้างโครงการพลังงานที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในขณะนี้ให้กับกฟผ.แล้ว BGRIM มั่นใจว่าจะเป็นผู้ พัฒนาโรงไฟฟ้าที่มีคุณภาพที่สามารถสร้างคุณประโยชน์สูงสุดให้กับกฟผ.และจะเป็นการดำเนินการได้ตามยุทธศาสตร์ของบริษัทภายใต้แผน PDP ในการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำตามกำลังการผลิตเป้าหมายที่ 2,725 เมกะวัตต์ ให้ได้อย่างต่อเนื่อง" นางปรียนาถ กล่าว

นางปรียนาถ กล่าวว่า การยื่นซองเสนอราคาของ B.GRIMM POWER - ENERGY CHINA CONSORTIUM ต่อกฟผ. ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง
ศักยภาพความสามารถในการบริหารจัดการโครงการด้านพลังงานของ BGRIM ที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำตามนโยบายที่ภาครัฐ กำหนดไว้ให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยหากผลการพิจารณาได้รับความเห็นชอบจากกฟผ.อย่างเป็นทางการแล้ว B.GRIMM POWER - ENERGY CHINA CONSORTIUM มีความพร้อมในการเริ่มพัฒนาและก่อสร้างโครงการดังกล่าวนี้ได้ต่อไปในทันที