กองทุน DIFเดินหน้าลงทุนเพิ่มครั้งที่ 4 มูลค่า 1.58 หมื่นล้านบาท
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไทยพาณิชย์ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)เปิดเผยว่า กองทุน DIF เตรียมเข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1.58 หมื่นล้านบาท
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไทยพาณิชย์ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)เปิดเผยว่า กองทุน DIF เตรียมเข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1.58 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบัน กองทุนฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และสิทธิการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิในเสาโทรคมนาคม 15,271 เสา เจ้าของกรรมสิทธิ์ สิทธิการเช่าระยะยาวและสิทธิการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิในใยแก้วนำแสงประมาณ 2.7 ล้านคอร์กิโลเมตร และกรรมสิทธิ์ในระบบบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด 1.2 ล้านพอร์ต โดย ณ วันที่ 31 มี.ค.2562 กองทุนฯ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 แสนล้านบาท
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่กองทุน DIF จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู ประกอบด้วย
1. การลงทุนในกรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมรวม 788 เสา แบ่งเป็นเสาที่ตั้งอยู่บนพื้นดิน 749 เสาและเสาที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าจำนวนประมาณ 39 เสา โดยเสาดังกล่าวพร้อมใช้งานและส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาไม่เกิน 1 ปี
2. กรรมสิทธิ์ในใยแก้วนำแสง (FOC)ซึ่งปัจจุบันใช้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ระยะทางประมาณ 1,795 กิโลเมตร (ประมาณ 107,694 คอร์กิโลเมตร)
3. กรรมสิทธิ์ใน FOC ซึ่งปัจจุบันใช้รองรับเทคโนโลยีระบบ FTTx สำหรับให้บริการอินเทอร์เน็ตและบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร (ประมาณ 40,823 คอร์กิโลเมตร) และประมาณ 617 กิโลเมตร (ประมาณ 37,505 คอร์กิโลเมตร) ตามลำดับ
4. กรรมสิทธิ์ ใน FOC ซึ่งปัจจุบันใช้รองรับเทคโนโลยีระบบ FTTx สำหรับให้บริการอินเทอร์เน็ตและบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด รวมระยะทางประมาณ 2,797 กิโลเมตร (ประมาณ 109,704 คอร์กิโลเมตร)
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะมาจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนทั้งจำนวน โดยออกและเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 1,050 ล้านหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน ซึ่งจะกำหนดการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อไป
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ผลการดำเนินงานกองทุน DIF ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2559 – 2561) สามารถจ่ายเงินปันผลส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนแก่ผู้ถือหน่วยได้อย่างสม่ำเสมอ โดยประกาศจ่ายเงินปันผลส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนทุกไตรมาส รวมต่อปีเป็นอัตรา 0.956, 0.975 และ 1.016 บาทต่อหน่วย ตามลำดับ
ขณะที่คาดว่าหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 กองทุน DIFจะสามารถจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ลงทุนเพิ่มเติมโดยการให้เช่าระยะยาวแก่ผู้เช่าหลักคือกลุ่มทรู ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศ


