ภัยแล้งน่าห่วง! 47อ่างเก็บน้ำมีน้ำน้อยกว่า30%ของความจุ

รองนายกฯห่วงหลายพื้นที่เผชิญภัยแล้งหนัก เผยอ่างเก็บน้ำ 47 แห่งมีน้ำต่ำกว่า 30%ของความจุ "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์"เหลือน้ำเพียง16%

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม พร้อมด้วย นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สนทช.)ว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำยมบริเวณประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย พบว่าปริมาณน้ำยังไม่น่ากังวลมีน้ำผ่านที่จุดนี้450ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) จากที่คาดว่าจะผ่าน600-700ลบ.ม.ต่อวินาที นอกจากนั้น ยังมีทุ่งบางระกำที่เตรียมรับน้ำได้อีก550ล้านลูกบาศก์(ลบ.ม.)

อย่างไรก็ตามขณะนี้เป็นห่วงคือสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงที่ไม่น่าเชื่อว่าขณะนี้เกิดแล้งในหลายจังหวัด มีการคาดว่าฝนปลายฤดูจะแล้งและฝนจะลดลงอีกประมาณ 5% จึงสั่งให้ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารน้ำในวันที่ 24 ส.ค.เพื่อติดตามปริมาณน้ำทุกเขื่อนล่าสุดพบว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เหลือน้ำเพียง16%ของความจุ 960ล้านลบ.ม. ทั้งที่่เป็นเขื่อนสำคัญของทุ่งเจ้าพระยา ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอชมกรมฝนหลวงและการบินเกษตรที่ได้ขึ้นปฏิบัติการต่อเนื่องเพื่อช่วยพื้นที่เกษตร

ด้าน นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ฝนทิ้งช่วงประมาณ3ล้านไร่ ส่วนมากในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ซึ่งจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าเดือนก.ย.ถึงสิ้นฤดูฝน ฝนจะน้อยลง ดังนั้นกรมฝนหลวงฯยังปฏิบัติการเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำต่อเนื่อง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสทนช.กล่าวว่า ขณะนี้มีอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำน้อยกว่า30%ของความจุ รวม47แห่งและเป็นอ่างของพลังงานทดแทนอีก20แห่ง เป็นภาคเหนือ3แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ28แห่งภาคกลาง4แห่ง ที่เหลืออยู่ในภาคใต้

ทั้งนี้เมื่อกรมอุตุฯคาดว่า ฝนในเดือน ก.ย.จะน้อยลง สทนช.จะต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้ละเอียดมากขึ้น รวมทั้งต้องทำแผนปฎิบัติการเพื่อประสานกับกรมฝนหลวงฯในการชี้เป้าเขื่อนที่ต้องเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ