แผน3ปี‘โรบินสัน’ผุด10สาขา

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เปิดเผยว่า แผนลงทุนในช่วง 3 ปีนับจากนี้ โรบินสันจะเปิดสาขาใหม่กว่า 10 แห่ง คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เฉลี่ยการลงทุนเปิดปีละ 34 แห่ง มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

การลงทุนจะเน้นไปที่ต่างจังหวัด โดยจะมีทั้งรูปแบบเปิดสาขาสแตนด์อะโลน และเปิดในศูนย์การค้าเซ็นทรัลร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของทำเล

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนารูปแบบของสาขาสแตนด์อะโลนให้เป็นลักษณะไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ที่ไม่ได้มีเพียงห้างสรรพสินค้าโรบินสันเพียงอย่างเดียว แต่มีร้านค้าและบริการต่างๆ ด้วย เพื่อรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยประเดิมสาขาแรกที่ จ.ตรัง บนพื้นที่ 20 ไร่ อาคาร 2 ชั้น พื้นที่รวม 32,858 ตารางเมตร ภายใต้งบลงทุน 650 ล้านบาท พร้อมกับใช้งบอีก 10 ล้านบาทในช่วงเปิดตัว ตั้งเป้ามีผู้เข้าใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน และจะมีการจับจ่ายใช้สอยไม่น้อยกว่า 8001,000 บาทต่อคน

หลังจากสาขาดังกล่าวแล้ว โรบินสันยังเตรียมเปิดไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์อีก 2 แห่งที่สุราษฎร์ธานี และอีกแห่งอยู่ระหว่างเจรจา ส่วนสาขาบางแคที่อยู่ในฟิวเจอร์บางแคเดิม อยู่ระหว่างปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ภายใต้งบ 100 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาปัจจัยที่ทำให้สาขาบางแคไม่ประสบความสำเร็จเพราะผู้บริหารศูนย์ไม่ได้ทำการตลาดต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่กลุ่มซีคอนสแควร์เข้ามาเทกโอเวอร์แล้ว จะทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับสาขาใหม่ที่เปิดในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกับกลุ่มซีพีเอ็น เตรียมเปิดที่เชียงราย พิษณุโลก และพระราม 9 โดยในส่วนของสาขาพระราม 9 มั่นใจว่าจะแตกต่างจากสาขารัชดาภิเษก

ทั้งนี้ กรณีสาขารัชดาภิเษกที่จะหมดสัญญาเช่าที่ดินในปี 2555 หลังจากเช่ามาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว และมีกระแสข่าวว่ากลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดีได้เข้ามาเช่าที่ดินต่อแล้วนั้น ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครเป็นผู้เช่ารายใหม่ หรือได้ที่ดินดังกล่าวแล้ว โดยกลุ่มโรบินสันอยู่ระหว่างเจรจาต่ออายุการเช่ากับเจ้าของที่ดินเอกชน ซึ่งหากได้เช่าต่อจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เนื่องจากตัวอาคารมีอายุนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะได้ต่ออายุการเช่าที่ดินดังกล่าวหรือไม่ บริษัทก็วางแผนจะย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่พระราม 9 โดยในส่วนของยอดขายปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 12% ซึ่งคาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากยอดขายปัจจุบันเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 16%