แห่ซื้อออนไลน์ทุบยี่ปั๊วซาปั๊วสูญพันธุ์

ธุรกิจออนไลน์ทุบยี่ปั๊วซาปั๊วใกล้สูญพันธุ์ คาดดัชนีแข่งขันเอสเอ็มอีฟื้นไตรมาส 4/2561

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอีและดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเอสเอ็มอีประจำไตรมาส 1/2561 ว่า ดัชนีความสามารถในการแข่งขันเอสเอ็มอีอยู่ที่ 48.2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 47.9 เนื่องจากเศรษฐกิจภาพรวมมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่อยู่ในลักษณะกระจุกตัวและตัวเลขยังต่ำกว่าระดับกลางที่ระดับ 50 ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (ยี่ปั๊วซาปั๊ว) ที่ศักยภาพการแข่งขันมีแนวโน้มลดลงอย่างมากสวนทางกับธุรกิจหลายประเภท และหลายรายมีแนวโน้มที่จะเลิกกิจการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของธุรกิจออนไลน์ที่ปัจจุบันพบว่า ร้านค้าปลีกรายย่อยและห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ต่างหันมาทำกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ โดยจำหน่ายสินค้าโดยตรงไปยังผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ธุรกิจค้าส่งแบบดั้งเดิมที่ยังไม่มีการปรับตัวแข่งขันได้ลำบากขึ้น

สำหรับผลสำรวจเมื่อลงลึกในรายละเอียด พบว่า ดัชนีสถานการณ์ธุรกิจอยู่ที่ 42.8 ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจอยู่ที่ 50.3 ดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจอยู่ที่ 51.5 โดยคาดว่าภาพรวมสถานการณ์ในการแข่งขันธุรกิจเอสเอ็มอีในไตรมาส 2/2561 จะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 49.2

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจภาพรวมฟื้นตัว แต่เป็นการฟื้นตัวที่ยังไม่กระจายมากนัก เห็นได้จากธุรกิจเอสเอ็มอีที่อยู่ในซัพพลายเชนของการส่งออกและการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมหลัก

ทั้งนี้ ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) เพิ่มขึ้นตามยอดผลิตและการส่งออกรถยนต์ รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เช่น ธุรกิจโรงแรม เกสต์เฮาส์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีความสามารถแข่งขันในไตรมาส 1/2560 พบว่า ธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีคะแนนสูงสุด 55.5 รองลงมาธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ 52.4 ธุรกิจโรงแรมและเกสต์เฮาส์ 51.9 ธุรกิจท่องเที่ยวและสันทนาการ 51.4 ธุรกิจบริการเสริมสวย 46.5 ธุรกิจสุขภาพและความงาม 42.6 ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร 43.0 เป็นต้น