พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก
วันนี้มาชมพระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก
โดย อาจารย์ชวินทร์ [email protected]
วันนี้มาชมพระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในพระชุดเบญจภาคี พุทธคุณของพระนางพญา นอกจากด้านเมตตามหานิยมแล้ว ยังเปี่ยมในด้านแคล้วคลาดและมหาอุดอีกด้วย ในอดีตที่ผ่านมามีหลายคราวที่โจรผู้ร้ายห้อยแค่พระนางพญาดวลปืนสู้กับตำรวจ และยิงไม่เข้าเป็นที่โจษจันถึงพุทธคุณของพระนางพญา องค์ที่นำมาให้ชมเป็นหนึ่งในแม่พิมพ์สังฆาฏิครับ
พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ แม่พิมพ์นี้ ส่วนบนหน้าขององค์พระจะกว้างและสอบลงมาที่คาง ส่วนมากจะไม่เห็นหน้าตา ที่หน้าผากจะยุบเป็นตำหนิแม่พิมพ์ของพิมพ์สังฆาฏิ หูขวาขององค์พระเป็นเส้นจรดไหล่และปลายหูขวา ถ้าติดชัดจะเห็นเหมือนหางแซงแซว หูซ้ายจะยาวจรดไหล่ และพาดต่อลงมาเป็นเส้นขอบจีวร
เบ้าขนมครกหรือหลุมบริเวณหัวไหล่ซ้ายจะเห็นได้ชัดและเป็นเอกลักษณ์ของพิมพ์นี้เช่นกัน และปลายไหล่ทั้งสองข้างจะเทลาดลงไปสู่ขอบทั้งสองด้าน เส้นสังฆาฏิกว้างเป็นแผ่นหนาเห็นได้ชัด แขนขวาวางพาดบนตัก และแขนซ้ายจะงอเป็นขอเบ็ด นอกจากนี้ให้สังเกตที่ข้อมือขวาขององค์พระที่วางบนหัวเข่า จะเป็นการวางมือแบบหักข้อมือ โดยมือวางหักออกด้านนอก
เมื่อลองสังเกตด้านข้างจะเห็นรอยตอกตัดเป็นธรรมชาติ พื้นผิวจะยุบตัวเป็นธรรมชาติไม่ยุบเสมอกันทั้งหมด และเป็นรอยครูดเพราะเกิดจากการกดมีดหรือตอกลงมาจากด้านบนลงด้านล่างและกระทบกับเม็ดกรวด บางองค์ก็ตัดชิดขอบพิมพ์ บางองค์ก็ตัดนอกขอบพิมพ์ซึ่งจะพบเห็นเช่นกัน เมื่อมาพิจารณาเม็ดแร่ จะไม่มีแร่คม สีที่พบคือขาวขุ่น ขาวใส สีน้ำตาลและสีดำ ซึ่งจะแตกต่างจากเม็ดทรายจากแม่น้ำโดยสิ้นเชิง
และสีขององค์พระมี 4 สีคือ ดำ แดง เหลือง และเขียว ซึ่งเกิดจากดินที่ถูกเผาและได้รับความร้อนต่างกันในขณะวางเผาอยู่ในเตา เช่นถ้าวางอยู่ตรงกลางย่อมได้รับความร้อนสูงกว่าที่วางอยู่ขอบนอก อันเป็นที่มาของขนาดองค์พระด้วย ถ้าโดนความร้อนมากย่อมหดตัวมากที่สุดและขนาดจะเล็กที่สุดซึ่งก็คือสีเขียว
วัดนางพญา ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดพระพุทธชินราช (วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ) สันนิษฐานว่า พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของพระมหาธรรมราชา และพระราชมารดาในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างพระนางพญาขึ้น ในคราวบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบูรณะ ราวปี พ.ศ. 2090-2100 ขณะนั้นพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวง และพระวิสุทธิกษัตรีย์ดำรงพระอิสริยยศเป็นแม่เมืองสองแคว และพระมหาธรรมราชาทรงพระอิสริยยศที่พระอุปราชแห่งกรุงศรีอยุธยา
พระนางพญาเป็นพระดินเผา ศิลปะสุโขทัย อายุการสร้างประมาณ 400 ปี เป็นพระพุทธปางมารวิชัย ไม่มีฐาน ไม่มีซุ้ม ขอบตัดเป็นรูปสามเหลี่ยมชิดกับองค์พระประธาน หลังเรียบเป็นส่วนใหญ่ จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ของผิวหลังที่เรียบและมีส่วนผสมของ
กรวดที่ฝังอยู่ในเนื้อดิน เมื่ออายุยาวนานกว่า 400 ปี ดินเกิดการหดตัวทำให้เห็นดินหุ้มอยู่บนกรวดหดตัวลงด้วย เรียกว่าเม็ดผด มีทั้งหมด 6 พิมพ์มาตรฐานในปัจจุบัน คือ พิมพ์เข่าโค้ง พิมพ์เข่าตรง (แยกเป็น 2 พิมพ์ คือ เข่าตรงธรรมดาและพิมพ์เข่าตรงมือตกเข่า) พิมพ์อกนูนใหญ่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์เทวดา และพิมพ์อกนูนเล็ก
พระนางพญาแตกกรุจากการที่พระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระนางพญาภายในวัดได้เกิดพังทลายลงมา พระได้กระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณวัด และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จฯ มายังพิษณุโลกเพื่อทำการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง พระองค์ท่านได้ทรงรวบรวมพระนางพญานำกลับมาบรรจุไว้ในพระเจดีย์ในกรุงเทพฯ 2 วัด และส่วนหนึ่งก็ได้บรรจุที่วัดนางพญาดั่งเดิม


