posttoday

ร่วมพลัง วิศวะจุฬา-ลาดกระบัง

02 กุมภาพันธ์ 2561

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของแวดวงการศึกษาไทย เมื่อคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วยอธิการบดีทั้งสองสถาบันเป็นสักขีพยาน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสร้างสุดยอดหลักสูตรร่วมกัน คือ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 4 ปี ภาคปกติ ด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics Engineering and Artificial Intelligence, AI)

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย

สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของแวดวงการศึกษาไทย เมื่อคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วยอธิการบดีทั้งสองสถาบันเป็นสักขีพยาน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสร้างสุดยอดหลักสูตรร่วมกัน คือ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 4 ปี ภาคปกติ ด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics Engineering and Artificial Intelligence, AI)

สำหรับบัณฑิตที่จบหลักสูตรนี้จะได้รับปริญญาพร้อมกันถึงสองใบ จากทั้งวิศวะจุฬาฯ และวิศวะลาดกระบัง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นักศึกษาหลักสูตรปกติ 4 ปี จะได้รับปริญญาจากทั้งสองมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ

ในส่วนของการเรียนการสอนจะถูกบริหารโดยทั้งสองสถาบัน ซึ่งจะได้สุดยอดอาจารย์จากทั้งวิศวะจุฬาฯ และลาดกระบัง ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยท็อปของโลกทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมไอที วิศวกรรมระบบ และสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำการสอน ทำให้หลักสูตรนี้ทันสมัยที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้นำหลักสูตรของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทั้งจากเอ็มไอที คาร์เนกีเมลลอน และสแตนฟอร์ด ที่เป็นผู้นำด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ มาพัฒนาต่อยอดอีกด้วย

ดังนั้น การเรียนในหลักสูตรร่วมวิศวะจุฬาฯ-ลาดกระบังนี้ จึงไม่ต่างจากไปเรียนที่มหาวิทยาลัยระดับโลกในต่างประเทศ และยังจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งมีนโยบายให้มหาวิทยาลัยไทยทำหลักสูตรแบบบูรณาการ ที่สามารถเรียนข้ามคณะ เรียนข้ามมหาวิทยาลัย ทลายกำแพงทางการศึกษา

ขณะเดียวกันยังจะได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนให้นักศึกษาได้เข้าไปเรียนรู้และปฏิบัติงานในสภาพปัญหาจริง โครงการนี้จะรับนักศึกษาให้ทันปีการศึกษา 2561 ที่จะเริ่มในเดือน ส.ค.นี้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีก 1 หลักสูตรนานาชาติ ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาฯ และลาดกระบังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) พัฒนาหลักสูตรนานาชาติวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต ภายใต้มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ซึ่งจะใช้หลักสูตรของมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่เหมือนกับที่เรียนในสหรัฐอเมริกาทุกประการ

นักศึกษาในหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ภายใต้ความร่วมมือกับวิศวะจุฬาฯ-ลาดกระบังนี้ จะมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ซิลิคอนวัลเลย์ ศูนย์กลางสตาร์ทอัพ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของโลกที่แคลิฟอร์เนีย ที่น่าสนใจคือ จะได้เรียนและวิจัยร่วมกับคณาจารย์ระดับโลกจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน แถมยังมีแต้มต่อในการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอกของมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอลที่ให้ปริญญาของคาร์เนกีเมลลอนแห่งเดียวในทวีปเอเชียอีกด้วย

การรวมพลังกันของวิศวะจุฬาฯ และวิศวะลาดกระบังครั้งประวัติศาสตร์นี้ ยังเป็นการส่งสัญญาณแรงๆ ไปยังทุกคณะของทุกมหาวิทยาลัยไทยว่า วันนี้มหาวิทยาลัยไทยต้องไม่แข่งขันกันเองภายในประเทศอีกต่อไปแล้ว แต่จะต้องช่วยกันผนึกกำลัง แลกเปลี่ยนความรู้ แชร์ทรัพยากรทั้งองค์ความรู้ บุคลากร และเครือข่ายร่วมกัน เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงรุนแรงได้

เพียงแค่ในอาเซียน สิงคโปร์และมาเลเซียก็ได้พัฒนาการศึกษาก้าวไกลนำหน้าไทยไปไกลแล้ว หากเรายังยึดติดกับแนวความคิดเดิมๆ ความรู้สึกภูมิใจเก่าๆ ยิ่งทำให้เราติดกับดักตัวเอง จนวิ่งตามโลกไม่ทัน

และที่มีคนชอบบ่นว่า คนไทยเก่งแต่ทำงานคนเดียว รวมกันเป็นทีมไม่ได้ คงจะไม่จริงอีกต่อไป เพราะวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนเก่งกับคนเก่งก็รวมกันเป็นทีมไทยแลนด์ ทำงานเพื่อสร้างอนาคตชาติด้วยกันได้

ข่าวล่าสุด

ทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ ทะลุ 4,400 ดอลลาร์ครั้งแรก จากคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย