แปลงเพศปลานิลด้วยไฟฟ้า เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ
อุปกรณ์แปลงเพศปลานิลด้วยวิธีไฟฟ้า (Fish X-Change) นวัตกรรมของอุปกรณ์การเปลี่ยนเพศปลานิลสู่เพศผู้ครั้งใหม่ของโลก จึงช่วยเกษตรกรได้ปลานิลเพศผู้ตามที่ต้องการ และขยายการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
อุปกรณ์แปลงเพศปลานิลด้วยวิธีไฟฟ้า (Fish X-Change) นวัตกรรมของอุปกรณ์การเปลี่ยนเพศปลานิลสู่เพศผู้ครั้งใหม่ของโลก จึงช่วยเกษตรกรได้ปลานิลเพศผู้ตามที่ต้องการ และขยายการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
ชุดอุปกรณ์แปลงเพศปลานิลด้วยวิธีไฟฟ้า เป็นผลงานวิจัยที่ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปี พร้อมกับได้รับทุนส่งเสริมงานวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยปลานิลเพศผู้เป็นปลาที่เกษตรกรมีความต้องการอย่างสูงสุด
วิธีการทำงานของอุปกรณ์จะใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อส่งฮอร์โมนเพศผู้ไปยังไข่ปลา ทำให้ได้ปลานิลเพศผู้ มีขั้นตอนการดำเนินการประมาณ 15 นาทีเท่านั้น รวมถึงมีความปลอดภัย เป็นเทคโนโลยีสะอาด แตกต่างจากแบบเดิมที่เกษตรกรใช้วิธีการให้ปลานิลเป็นเพศผู้ด้วยการให้อาหารปลานิลที่ผสมกับฮอร์โมนเพศผู้ และใช้เวลารวม 20-21 วัน อีกทั้งวิธีแบบเดิมจะต้องตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยและสารตกค้าง ซึ่งขณะนี้ยุโรปและต่างประเทศให้ความสำคัญกับปลานิลนำเข้าต้องปลอดภัยตามมาตรฐานและมีสารตกค้างน้อยที่สุด
โดยการใช้ Fish X-Change ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนลงกว่า 3,000 เท่า รวมถึงเพิ่มปริมาณผลผลิตปลานิลเพื่อส่งออกในระยะยาว โดยปลานิลเพศผู้ที่ได้มีสัดส่วน 89% และในอนาคตจะพัฒนาให้ปลานิลเพศผู้สัดส่วนมากขึ้น
สำหรับประเทศไทยปลานิลเป็นปลาเศรษฐกิจสำคัญ โดยประเทศไทยส่งออกปลานิลสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 2 แสนตัน/ปี หรือมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีเกษตรกรที่เลี้ยงปลานิลประมาณ 3 แสนราย พื้นที่การเพาะเลี้ยงประมาณ 4 แสนไร่
“ความสนใจทำวิจัยเรื่องปลานิลในช่วง 5 ปีก่อน มาจากการที่ได้เห็นปัญหาเกษตรกรในการเลี้ยงปลานิลที่ต้องการปลานิลเพศผู้ จึงได้ศึกษาข้อมูลเรื่องนี้ พบว่าปลานิลเป็นปลาที่มีความสำคัญ เป็นปลาพระราชทานจากในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นปลามีโปรตีน รวมถึงเป็นปลาเศรษฐกิจของไทยและมีความต้องการในตลาดโลก” รศ.ดร.ศักย์ชิน กล่าว
ขณะเดียวกัน ได้นำผลงานวิจัยไปร่วมนำเสนอในงาน NSTDA Investers’ Day จัดโดย สวทช.และได้รับการโหวตให้เป็นผลงานวิจัยที่น่าลงทุนสุดในงาน เนื่องจากตรงกับความต้องการของเอกชน เป็นผลดีต่อเกษตรกร ซึ่งมีผู้สนใจอุปกรณ์ดังกล่าวจำนวนมาก
อีกทั้งตนเองต้องการต่อยอดงานวิจัย จึงมีความสนใจพัฒนาการวิจัยเรื่องทำลายเชื้อโรคที่เกิดขึ้นในปลาเชื่อมั่นว่า จะร่วมการสร้างและยกระดับมาตรฐานการผลิตของไทยเพิ่มขึ้น
รศ.ดร.ศักย์ชิน กล่าวต่อว่า การทำงานวิจัย สิ่งสำคัญคือทำแล้วต้องมีความต้องการและมีผู้ใช้ในตลาด มีเป้าหมายในการทำงานวิจัย รวมถึงตรงกับนโยบายของภาครัฐและเป็นผลดีต่อประเทศ
“การทำงานวิจัยจะต้องมีใจรัก และใจสู้ รวมถึงต้องมีองค์ความรู้เรื่องดังกล่าว แม้ว่าเรื่องที่ทำอาจจะไม่มีองค์ความรู้ครบทั้งหมด หรือมีความรู้ในสัดส่วน 6 ใน 10 แต่ระหว่างทางสามารถหาความรู้เพิ่มเติม ทุกอย่างเรียนรู้เพิ่มได้ และทำแล้วต้องมีประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศ” รศ.ดร.ศักย์ชิน กล่าวปิดท้าย


