‘ศักดิเดช พูลสวัสดิ์’ ผุดแอพต่อยอดท่องเที่ยว
รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย จุดเริ่มต้นของการเป็นสตาร์ทอัพก่อตั้งแอพพลิเคชั่นแฮนดิโก (HandiGo) มาจากการเห็นปัญหาของนักท่องเที่ยวในเกาะสมุย จากการเดินทางที่มีราคาสูง ค่าโดยสารจากสนามบินมาถึงหาดเฉวง ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร แต่กลับต้องเสียค่าเดินทาง 500 บาท ประกอบกับครอบครัวตระกูล "พูลสวัสดิ์" ที่ดำเนินธุรกิจรีสอร์ทใหญ่ในเกาะสมุย มาลิบู เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ บีช คลับ จึงเดินหน้าสร้างแอพพลิเคชั่นเพื่อต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว
รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย
จุดเริ่มต้นของการเป็นสตาร์ทอัพก่อตั้งแอพพลิเคชั่นแฮนดิโก (HandiGo) มาจากการเห็นปัญหาของนักท่องเที่ยวในเกาะสมุย จากการเดินทางที่มีราคาสูง ค่าโดยสารจากสนามบินมาถึงหาดเฉวง ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร แต่กลับต้องเสียค่าเดินทาง 500 บาท ประกอบกับครอบครัวตระกูล "พูลสวัสดิ์" ที่ดำเนินธุรกิจรีสอร์ทใหญ่ในเกาะสมุย มาลิบู เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ บีช คลับ จึงเดินหน้าสร้างแอพพลิเคชั่นเพื่อต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว
ศักดิเดช พูลสวัสดิ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮนดิโก ผู้ร่วมก่อตั้งแอพพลิเคชั่นแฮนดิโก เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวผ่านแอพพลิเคชั่น เปิดเผยว่า เกาะสมุยเป็น เดสติเนชั่นหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเที่ยว ในช่วง 1 ปีจะมี นักท่องเที่ยวเดินทางมา 1 ล้านคน ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้เปิดแอพพลิเคชั่น เนวิโก (Navigo) เพื่อให้บริการ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเกาะสมุยในราคาที่ยุติธรรมด้วยการบริการ รถยนต์มีด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ รถยนต์ NaviLimo ในอัตราเริ่มต้น 0-10 กิโลเมตร ราคา 30 บาท/ กิโลเมตร กับรถตู้ Navivan เริ่มต้น 0-10 กิโลเมตร ราคา 200 บาท/กิโลเมตร ซึ่งในส่วนของเกาะสมุยมีรถให้บริการราว 30-40 คัน
นอกจากนี้ ยังได้ขยายการให้บริการไปสู่จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ ขณะนี้มีรถให้บริการ 30 คัน โดยการให้บริการในเมืองอื่นๆ จะดีลกับอูเบอร์หรือแกร็บ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากเปิดให้บริการ 1 ปี ยอดการดาวน์โหลดราว 3 หมื่นดาวน์โหลด และคาดว่าสิ้นปีนี้ยอดการดาวน์โหลด 5 หมื่นดาวน์โหลด แต่เมื่อมองถึงโมเดลทางธุรกิจแล้ว เนวิโกจะแข่งขันกับรายใหญ่อูเบอร์หรือกระทั่งแกร็บ ซึ่งให้บริการไดรฟ์แชริ่งลำบาก ล่าสุดจึงเตรียมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่แฮนดิโก เพื่อให้บริการ นักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการภายในโรงแรมได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สำหรับแฮนดิโกเป็นแอพพลิเคชั่น ที่ลูกค้าสามารถใช้บริการทางโรงแรมผ่านทางแอพพลิเคชั่น ทั้งการสั่งอาหาร บริการต่างๆ โดยมีระบบแปลภาษาได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย เพื่อสร้างการสื่อสารที่ถูกต้องระหว่างโรงแรมและลูกค้า ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนจีนถึง 30% ขณะนี้มีเชนโรงแรมที่นำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวไปใช้แล้วราว 1 หมื่นห้อง ในส่วนนี้ แฮนดิโกจะมีรายได้จากการใช้บริการของนักท่องเที่ยวราว 15% อย่างไรก็ดีวางเป้าหมายการขยายบริการครอบคลุม 50% ของจำนวนโรงแรมในไทยเมื่อไหร่ จะขยายการให้บริการภายนอกโรงแรม เช่น บริการรถทัวร์
ขณะที่แผนในปีหน้ายังมองถึงการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้แก่ บาริโก (Barigo) บริการทางด้านเรสเตอรองต์ โดยให้ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นสามารถสั่งอาหารและเลือกเวลาที่จะเข้าไปรับประทาน ส่วนสเต็ปต่อไปจะลงลึกถึงขั้นสามารถจองโต๊ะอาหารได้เลย และ แอพพลิเคชั่นเฟสติโก (Festigo) หรือบริการด้านการจองบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตหรือเฟสติวัลที่เกิดขึ้นในเมือง ซึ่งจะเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ส่วนแผนในอนาคตยังสนใจจะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพ หรือผู้ดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น สามารถจองการให้บริการสปา ฟิตเนส เป็นต้น ซึ่งมุ่งเน้นเจาะทั้งกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
"โอกาสทางธุรกิจมองว่าการเป็นสตาร์ทอัพต้องนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาของคน และทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้รับความสะดวกสบาย อย่างเช่นแอพพลิเคชั่นเนวิโก เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกาะสมุยเผชิญกับปัญหาปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง ส่วนหนึ่งมาจากค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร และยิ่งการเดินทางในช่วงกลางคืนจะต้องเสียค่าบริการมากกว่ากลางวันด้วยซ้ำ เนวิโกเป็นแอพพลิเคชั่นที่สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้ธุรกิจท้องถิ่นอยู่ได้ โดยในแต่ละเดือนมีรายได้ 1 ล้านบาท หรือราว 12 ล้านบาท/ปี" ศักดิเดช กล่าว
ศักดิเดช กล่าวว่า สำหรับ แอพพลิเคชั่นแฮนดิโกเราพยายามทำให้ค่าบริการอาหารภายในโรงแรมถูกลง 5-10% เพราะแอพพลิเคชั่นเข้าไปช่วยลดต้นทุนในส่วนของพนักงาน ลดลง 25-30% อย่างไรก็ดี หลังจากเปิดตัวแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า คาดว่าในช่วงเวลา 1 ปี จะมีผู้ใช้บริการภายในโรงแรมและใช้แอพพลิเคชั่น 1 ล้านราย/ปี สำหรับรายได้ในปีหน้าจากการเปิดตัวแอพ พลิเคชั่นใหม่จะผลักดันให้บริษัทมี รายได้ 80 ล้านบาท และในปีที่ 3 หากมีรายได้แตะ 100 ล้านบาท และมีโอกาสจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ในมุมมองของการเป็นทายาททางธุรกิจรีสอร์ทในไทย เห็นว่าขณะนี้จีนได้เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการโรงแรม ท้องถิ่นหลายแห่ง มีแนวโน้มว่าจะเกิดการแข่งขันทางด้านราคาค่อนข้างสูง นักธุรกิจไทยก็ต้องปรับตัว เมื่อสู้กันที่ราคาไม่ได้ ก็ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ยิ่งในยุคนี้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นทุกสิ่งในการดำเนินชีวิตแล้ว ทางลัดของเราคือดักนักท่องเที่ยวตั้งแต่ที่ยังมาไม่ถึงโรงแรมเลยด้วยซ้ำ" ศักดิเดช กล่าว
ในอนาคตยังสนใจพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มการให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย ทั้งไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว การกิน เพื่อสุขภาพ เอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยการใช้บริการง่ายๆ แค่ปลายนิ้วกับ แอพพลิเคชั่นตระกูล "Go"


