posttoday

กองทุนชอบสีTOA WPHเทรดวันแรก

01 ตุลาคม 2560

TOA ลั่นกองทุนต่างชาติตอบรับดี หุ้นสีทาบ้านต่างประเทศพีอีสูง 30 เท่า เงินไอพีโอเพิ่มสัดส่วนขายต่างประเทศย้ำอันดับต้นของเอเชีย

TOA ลั่นกองทุนต่างชาติตอบรับดี หุ้นสีทาบ้านต่างประเทศพีอีสูง 30 เท่า เงินไอพีโอเพิ่มสัดส่วนขายต่างประเทศย้ำอันดับต้นของเอเชีย

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) เปิดเผยว่า ได้รับการตอบรับจากการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ที่ดีจากนักลงทุนทั้งรายบุคคลที่มีสัดส่วน 30% จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ทั้งหมด 507 ล้านหุ้น เฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนสถาบันที่เสนอขายให้ 70% ซึ่ง 2 ใน 3 ของกลุ่มสถาบันเป็นกองทุนจากต่างประเทศเป็นหลักอย่างกองทุนประเทศจีนที่รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่สนใจบริษัท เพราะปกติกองทุนนี้จะสนใจลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นหลัก

ทั้งนี้ กองทุนส่วนใหญ่จะมีการเปรียบเทียบ TOA กับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันที่อยู่ในต่างประเทศเป็นหลัก เพราะในตลาดหลักทรัพย์เองไม่มีบริษัทจดทะเบียนที่เป็นทำธุรกิจอุตสาหกรรมทาบ้านโดยตรง อีกทั้งต่างประเทศยังมีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ในสัดส่วนที่สูงประมาณกว่า 30 เท่าเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ของบริษัทอยู่ที่กว่า 20 เท่า

อย่างไรก็ดี เงินจากการระดมทุนนี้จะทำให้บริษัทมีศักยภาพขยายกำลังการผลิตจากการสร้างโรงงานที่จะเสร็จในปีหน้าทั้ง 3 แห่ง คือ อินโดนีเซีย เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 18-20% ได้ใน 5 ปีนี้ หรือภายในปี 2565 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13-14%

ขณะที่สัดส่วนในประเทศ 70% เชื่อว่า หลังจากเดือน ต.ค. สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มดีขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ต้องถือว่าเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางมากกำลังซื้อหาย เนื่องจากภาคเอกชนได้ตัดลดเงินค่าทำงานล่วงเวลา (โอที) ออกหมด ส่งผลให้การใช้จ่ายในส่วนนี้หายไป และคนก็ไปใช้เงินอนาคตกันหมด

"หลังจากปี 2540 เป็นต้นมา ถือว่าปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หายไปและตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่กลับมาชัดเจน สิ่งที่เห็นเชิงบวกตอนนี้คือกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่งเริ่มกลับมา แต่ธุรกิจสีทาบ้านจะได้รับผลบวกในช่วงท้ายของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ" นายจตุภัทร์ กล่าว

สำหรับวันนี้ 3 ต.ค. บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันแรกอยู่ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ ราคาหุ้นละ 3.90 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 585 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ 2,340 ล้านบาท นำเงินระดมทุนขยายการก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 59 เตียง ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ และขยายอาคารโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง เพิ่มจำนวนเตียงเป็น 212 เตียง และเพิ่มห้องตรวจ คลินิกเฉพาะทางรองรับคนไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ข่าวล่าสุด

เสนอพรรคการเมือง 3 ทางออก ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ต้อง 'ห้ามซื้อขาย' เด็ดขาด