ฟิลิปปินส์รุกแฟชั่นไทย

เพ็นช็อป แบรนด์ฟิลิปปินส์รุกตลาดฟาสต์แฟชั่นไทย วางแผน 5 ปี ผุด 50 สาขา รายได้โต 20% ทุกปี

นายสินรันปาล มันจันดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรินิตี้กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น เพ็นช็อป เปิดเผยว่า บริษัทรับสิทธิเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์เพ็นช็อปจากฟิลิปปินส์ เพื่อรุกตลาดฟาสต์แฟชั่นในไทยเซ็กเมนต์เดียวกับยูนิโคล่และเอชแอนด์เอ็ม โดยจะใช้กลยุทธ์ราคาวางสินค้าถูกกว่าคู่แข่ง 20-30% เช่น กางเกงยีนส์ราคาเริ่มต้น 599 บาท

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางออนไลน์ควบคู่กับออฟไลน์ ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่เปิดช่องทางจำหน่ายผ่านมาร์เก็ตเพลส เพื่อทำสินค้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง เนื่องจากสาขายังมีไม่มากเมื่อเทียบกับ คู่แข่ง ภายในปีนี้จะขยายเพิ่มอีก 3-4 สาขา จากปัจจุบันลงทุน 5 ล้านบาท เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ส่วนแผน 3-5 ปี ขยายให้ครบ 50 สาขา หรือโดยเฉลี่ยปีละ 8-10 สาขา โดยปีหน้าเริ่มขยายสาขาตลาดต่างจังหวัด

"เพ็นช็อปเจาะกลุ่มเป้าหมายแมส 18-25 ปี การกำหนดราคาสินค้าต้องจับต้องได้ง่าย ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็ว มากกว่าจะเลือกแบรนด์คู่แข่ง สำหรับกลุ่มสินค้ามี 4 กลุ่ม ราว 500 รายการ ได้แก่ กางเกงยีนส์ 50% เสื้อผ้า 30% น้ำหอมและเครื่องประดับ 20% หลังจากเปิดตัว 1 เดือน ลูกค้าให้การตอบรับ 70-80% ยอดการซื้อต่อบิลคนละ 1,500-2,000 บาท มีลูกค้าหมุนเวียนเข้าร้านวันธรรมดา 200 คน และเสาร์-อาทิตย์วันละ 500 คน" นายสินรันปาล กล่าว

นายเจฟฟ์ แบสคอน ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ฝ่ายต่างประเทศ บริษัท โกล เด้นท์ เอบีซี อิงค์ ผู้จัดจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์เพ็นช็อป กล่าวว่า บริษัทวางแผนสร้างแบรนด์อินเตอร์ ขณะนี้นำอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก อย่าง คาย่า เกอร์เบอร์ ลูกสาว ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด เพื่อภาพลักษณ์สู่ตลาดฟาสต์แฟชั่นในฐานะเป็นแบรนด์เอเชีย ซึ่งปัจจุบันเพ็นช็อปมีสาขาอยู่เกือบ 800 สาขา อาทิ ตะวันออกกลาง และในภูมิภาคอาเซียน

สำหรับเพ็นช็อปในฟิลิปปินส์มีกว่า 200 สาขา ซึ่งประเทศที่กำลังเติบโตนอกเหนือจากฟิลิปปินส์ คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม สำหรับไทยถือว่าเป็นตลาดสำคัญของเพ็นช็อป เพราะธุรกิจแฟชั่นเป็นตลาดใหญ่ และมีการแข่งขันสูงมีแบรนด์ระดับโลกเข้ามาทำตลาดแทบทุกแบรนด์ มั่นใจว่า เพ็นช็อปในไทยจะเติบโต 20% ได้ตามเป้าหมายต่อเนื่องทุกปี พร้อมกันนี้วางแผนเปิดให้บริการช่องทางออนไลน์ในฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลเซีย