คนไทยพกเงินสดน้อยลงหันไปใช้อี-เพย์เม้นท์

วีซ่า สำรวจพบคนไทยเริ่มคุ้นเคยเทคโนโลยีใหม่ๆ เลือกชำระเงินด้วยอี-เพย์เม้นท์เพิ่ม พกเงินสดน้อยลง

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผูจัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจของวีซ่าเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2559 จำนวน 1,000 ราย เป็นกลุ่มตัวอย่างคนไทย 500 รายที่มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป พบว่า คนไทยชำระเงินแบบอีเพย์เม้นท์มากขึ้น และการใช้เงินสดลดลง สอดคล้องกับการพกเงินสดที่ลดลงด้วยเพราะห่วงความปลอดภัย

ผลสำรวจระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม  73% มีการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านบัตร อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ มากกว่าชำระผ่านเงินสด แสดงให้เห็นถึงการเลี่ยงการใช้เศษเหรียญและธนบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง มีการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุด 83% เมื่อเทียบกับตลาดทั่วไปที่อยู่ที่ 68%

นอกจากนี้ ยังพบว่า คนไทยพกเงินสดน้อยลง โดยเหตุผลหลักกว่า 60% มาจากเรื่องของความไม่ปลอดภัยในการถือเงินสด และอีกเหตุผลหนึ่งคือ สามารถเข้าถึงการเบิกถอนเงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ผ่านเอทีเอ็ม 48% ขณะเดียวกัน มีการหันไปชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ 36%

นายสุริพงษ์ กล่าวว่า ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาทดลองชำระเงินที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งนวัตกรรมนี้เริ่มเข้ามาพร้อมกับระบบเศรษฐกิจออนดีมานด์ (on-demand) เช่น UBER  หรือ Food Delivery ที่สะดวกขึ้น ทำให้ทุกคนต่างมองหาการช่องทางชำระเงินที่ รวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกโดยไม่ต้องแสดงบัตรในการชำระเงินสอดคล้องกับผลสำรวจที่ผู้ทำแบบสอบถามกว่า 82% ระบุพร้อมเลือกชำระเงินแบบไร้สัมผัสมากกว่าเงินสด ถ้าร้านค้าแนะนำให้ใช้

อย่างไรก็ตาม แม้เข้าถึงระบบออนดีมานด์ แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันยังชำระเงินด้วยเงินสดเป็นหลัก 71% แต่การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์กำลังไต่อันดับตามขึ้นมา ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม 47%  ตอบว่าพวกเขาอาจจะลองชำระเงินผ่าน “การ์ด ออน ไฟล์ (card on file)” หรือการลงทะเบียนบัตรเข้าแอพพลิเคชั่น ในขณะที่ 56% ตอบว่าพวกเขาต้องการชำระเงินเมื่อได้รับของที่สั่งแล้วด้วยโมบายวอลเล็ต (mobile wallet)

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ วิธีการในการยืนยันตัวตนเพื่อชำระเงิน ซึ่งกว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกสบายใจในการใช้เทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ อาทิ ลายนิ้วมือ และระบบการจดจำใบหน้า ซึ่งถือได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์ตอบรับสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มคนที่สนใจการระบุตัวตนด้วยไบโอเมทริกซ์จะสามารถเห็นได้ชัดในกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย โดย 79%ของกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาในการใช้ไบโอเมทริกซ์ เมื่อเทียบกับกลุ่มเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ซึ่งอยู่ที่ 70%

“ไม่ว่าจะเป็น โมบายวอลเล็ต เพย์เมนท์ เกตเวย์ หรือเทคโนโลยีการชำระเงิน อื่นๆ ผลสำรวจของเราได้แสดงให้เห็นว่า โดยพื้นฐานแล้ว คนไทยยังคาดหวังให้ประสบการณ์การชำระเงินของพวกเขา ปลอดภัย เร็ว และเชื่อถือได้ และด้วยเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกอย่างวีซ่า ที่สามารถประมวลและควบคุมการทำธุรกรรมได้มากกว่า 65,000 รายการภายในหนึ่งวินาที อย่างมีเสถียรภาพ จะสามารถตอบสนองได้มากกว่าที่ต้องการ” นายสุริพงษ์กล่าว