ธนารักษ์ลุยปักหมูดที่ราชพัสดุ5แสนไร่ราชบุรี

ธนารักษ์ จับมือทหารบกลงพื้นที่ปักหมุดที่ราชพัสดุ 5 แสนไร่ สวนผึ้ง ราชบุรี เล็งจัดระเบียบนายทุน-ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่กว่า 1 แสนไร่ ภายใน 5 เดือน

นายเทวัญ  วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์  และพลเอก ธีระวัฒน์ บุญยะประดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงนามบันทึกข้อตกลงในการสำรวจรังวัดกำหนดตำแหน่งและปักหลักเขตที่ดินราชพัสดุกรอบนอกตามแผนที่กายภาพที่ได้ทำการสำรวจรังวัด เมื่อปี 2538 แปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 เฉพาะในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 

นายเทวัญ กล่าวว่า ที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ของ อ.จอมบึง และ อ.สวนผึ้ง เนื้อที่ประมาณ 5 แสนไร่ โดยมีกองทัพบกเป็นผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ และยังมีส่วนราชการอื่นๆ เข้าใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งสถานที่ทำการ เช่น  โรงเรียน สถานีอนามัย ที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และกรมทางหลวง ซึ่งปัจจุบันพบว่าพื้นที่บางส่วนมีประชาชนเข้าไปบุกรุกครอบครองและเข้าทำประโยชน์เป็นจำนวน 1 หมื่นราย ขณะที่มีผู้ประกอบการเข้าไปทำรีสอร์ต 75 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการรีสอร์ตที่จ่ายค่าเช่า 15 ราย

ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ กับกองทัพบก จะร่วมมือกันทำการสำรวจรังวัดกำหนดตำแหน่ง และปักหลักเขตที่ดินราชพัสดุกรอบนอกตามแผนที่กายภาพที่ได้กำหนดสำรวจรังวัด เมื่อปี2538 โดยใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อทำเสาหลักเขตแสดงพื้นที่ราชพัสดุ งานก่อสร้างป้ายแผนที่และประวัติที่ดินราชพัสดุ การมอบต้นไม้เศรษฐกิจให้กับประชาชนโดยจะดำเนินการในส่วนของพื้นที่ในเขตอำเภอสวนผึ้งก่อน เนื่องจากมีเนื้อที่จำนวนมากถึง 4.1  แสนไร่ ถูกบุกรุกไปแล้วประมาณ 1.08 แสนไร่ หรือเกือบ 30%  ซึ่งการดำเนินการจะแล้วเสร็จภายใน 5 เดือน

สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุพื้นที่ดังกล่าว ในกลุ่มที่ยังเป็นปัญหา ได้แก่ กลุ่มผู้ขอเช่าเพื่ออยู่อาศัยและทำการเกษตร จะดำเนินการตรวจสอบรังวัดจัดทำแผนที่และพิจารณาตามหลักเกณฑ์การจัดให้เช่า ว่ายังทำการเกษตรจริงหรือไม่ หรือเปลี่ยนไปทำรีสอร์ต ก็ต้องมารังวัดที่ดินใหม่ว่าอยู่ในแผนที่กายภาพปี 2538 หรือไม่ ถ้าอยู่ก็ต้องถูกปรับราคาค่าเช่า จากราคาค่าเช่าพื้นที่ทำเกษตร ไร่ละ 20 - 200 บาท จะต้องเปลี่ยนเป็นการเช่าในเชิงพาณิชย์ซึ่งคิดค่าเช่าสูงกว่า เช่นกรณีพื้นที่ในอาคารคิดค่าเช่าตารางเมตรละ 2.75 บาท พื้นที่นอกอาคารคิดไร่ละ 3,600 บาท รวมทั้งยังต้องสำรวจว่า ต้องไม่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ ป่าต้นน้ำลำธาร พื้นที่ลาดชันเกิน 19 องศา  เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ แต่หากคุณสมบัติครบถ้วนสามารถจัดทำสัญญาให้เช่าได้

ขณะที่กลุ่มผู้เช่ารายเดิม จะมีการตรวจสอบการครอบครองเนื้อที่ ถ้าพบว่ามีการบุกรุกครอบครองเกินเขตเช่าหรือจัดให้เช่าไม่ถูกหลักเกณฑ์ จะทำการลดเนื้อที่หรือระงับการต่อสัญญาเช่า สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ท กรณียังไม่ได้เช่าและไม่ยอมเช่า จะทำการรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีต่อไป