ธุรกิจขายตรงปีไก่แชร์ลูกโซ่ยังตามหลอน
ก้าวเข้าสู่ปี 2560 ถือเป็นปีแห่งความหวังของบรรดาผู้ประกอบการขายตรง ที่ตั้งเป้าหมายว่ายอดขายจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง
โดย...โชคชัย สีนิลแท้
ก้าวเข้าสู่ปี 2560 ถือเป็นปีแห่งความหวังของบรรดาผู้ประกอบการขายตรง ที่ตั้งเป้าหมายว่ายอดขายจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญกับปัจจัยลบรุมเร้ารอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งส่งผลให้ธุรกิจนอกระบบอย่างแชร์ลูกโซ่ยังคงระบาดอย่างหนัก
สุชาดา ธีรวชิรกุล นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานบริหาร แห่งยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค กล่าวว่า ภาพรวมตลาดขายตรงในปี 2560 นั้นยังต้องเผชิญปัจจัยลบ โดยเฉพาะจากแชร์ลูกโซ่หรือธุรกิจนอกระบบนั้นจะยังเป็นตัวฉุดให้ธุรกิจนี้จะย่ำแย่ลง เนื่องจากคนส่วนใหญ่ต้องการรายได้เพิ่มขึ้นและบางรายไม่ได้มองว่าธุรกิจที่เข้าไปร่วมเป็นขายตรงที่ทำอย่างถูกต้องหรือเป็นแชร์ลูกโซ่
“ยิ่งเศรษฐกิจซบเซาธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยิ่งระบาดหนัก ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจไทยเป็นหลักแสนล้านบาท เนื่องจากคนต้องการหารายได้เพิ่มขึ้นมองโอกาสว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้มากขึ้น โดยไม่ได้มองว่าเป็นธุรกิจที่ถูกต้องหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องเร่งให้ความรู้กับผู้บริโภคว่าก่อนที่จะร่วมธุรกิจด้วยว่าบริษัทนั้นมุ่งขายสินค้าหรือเพียงแต่ไปมุ่งการสร้างเครือข่ายสมาชิกธุรกิจมากๆ แล้วเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าแนะนำสมาชิก เป็นต้น ซึ่งเพื่อความแน่ใจจะต้องตรวจสอบกับทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ว่าบริษัทนั้นมีใบประกอบธุรกิจขายตรงอย่างถูกต้องหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม หากประเมินในภาพรวมธุรกิจขายตรงในปีนี้จะเติบโตได้ 2-3% ซึ่งปัจจัยที่คาดว่าจะช่วยส่งเสริมตลาดเติบโต เทรนด์สุขภาพความงามที่ขยายตัวต่อเนื่องรวมถึงปัจจัยคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวไม่ต้องการเป็นลูกจ้างบริษัท ทำให้หันมาสนใจทำธุรกิจขายตรงมากขึ้น ตลอดจนปัจจัยที่คนใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้นทำให้เกิดสังคมแบบชุมชนและติดต่อสื่อสารกันเป็นกลุ่มมากขึ้น ซึ่งสื่อออนไลน์จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการสร้างเครือข่ายธุรกิจและสื่อสารข้อมูลสินค้าได้มากและง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องทำการตลาดควบคู่กัน ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ไปพร้อมกัน โดยประโยชน์ของเครื่องมือออนไลน์ ถือได้ว่าเป็น Pain Killer ที่สามารถทำลายความเจ็บปวดในแบบการสื่อสารดั้งเดิมได้ ตัวอย่างเช่น การถูกปฏิเสธไม่เข้าร่วมเครือข่าย ถ้าหากปฏิเสธผ่านออนไลน์ก็ทำให้ผู้ชักชวนรู้สึกไม่เจ็บปวดเท่ากับการถูกปฏิเสธจากการชักชวนต่อหน้า (One on One) และออนไลน์ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเผยแพร่ ชักชวนเครือข่ายได้รวดเร็ว และทำได้ในจำนวนมากกว่าออฟไลน์ โดยที่ผ่านมาพบว่าการทำงานและประชุมเครือข่ายของสมาชิกหลายค่ายเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยหัวหน้าหรือตัวแทนที่ส่งไปประชุมก็จะใช้สื่อเฟซบุ๊ก ช่วยถ่ายทอดสดหรือไลฟ์สดการประชุมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่สมาชิกที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุม
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะต้องมีสินค้า 2 ประเภท คือ สินค้าที่เป็นแบรนด์เรือธง ที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้นาน และต้องมีสินค้าประเภทที่ปรับตัวรองรับโอกาสหรือกระแสที่เกิดขึ้นได้เร็ว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับการทำตลาดในสินค้าทั้งสองกลุ่มควบคู่กันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”
ขณะที่ภาพรวมตลาดขายตรงในปี 2559 พบว่าตลาดค่อนข้างทรงตัว หรือมีมูลค่าประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท หลังจากได้รับปัจจัยกดดันจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้การใช้จ่ายลดลง ไม่ได้มีลักษณะซื้อสินค้ากักตุนหรือสต๊อกเหมือนในช่วงที่ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อดีอยู่ ส่วนผู้ประกอบการสมาชิกในสมาคมพบว่าออกจากสมาคมไป 2 ราย ส่งผลให้ปี 2559 มีสมาชิกบริษัทรวมทั้งสิ้น 32 ราย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดขายตรงจะทรงตัวต่อเนื่องกันถึง 2 ปี แต่ก็ยังมีสัญญาณที่ดี คือ มีจำนวนสมาชิกที่เป็นบริษัทขายตรงเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยในปี 2559 มีสมาชิกสามัญรายใหม่ของสมาคมการขายตรงไทย มีเพิ่มเติม 2 ราย ประกอบด้วย บริษัท โมเดเร (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงจากสหรัฐมุ่งเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสกินแคร์ และบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ เป็นบริษัทขายตรงไทย ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นหลัก
สุชาดา กล่าวถึงภาพรวมของธรกิจแบรนด์อาวียองซ์ ในเครือยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง ว่า ยังคงมองโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ หลังจากปัจจุบันได้ทำตลาดแล้วใน 4 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชาซึ่งภาพรวมทุกตลาดยังเติบโตดียกเว้นตลาดกัมพูชาที่ค่อนข้างทรงตัว นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะปรับปรุงระบบเทคโนโลยี และเปิดตัวโมบายล์ แอพพลิเคชั่น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสมาชิกในการเช็กคะแนนสะสมที่ได้จากการดำเนินธุรกิจ


