มูลนิธิคนไทยฉลาดการเงิน เพื่อความสุขทางการเงินของคนไทย
“คนที่เป็นหนี้บางครั้งเกิดจากความไม่รู้ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่า เขาเป็นคนไม่ดี ฟุ่มเฟือย และพอไม่มีความรู้ทางการเงินก็พยายามจะหารายได้มากขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยไม่รู้ว่าความรู้ทางการเงินต่างหากที่จะช่วยแก้ปัญหา ซึ่งหลังจากที่ผมแก้ปัญหาของตัวเองได้แล้วก็มีความตั้งใจว่า จะให้ความรู้ทางการเงินกับคนไทยทั้งประเทศ” จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม (The Money Coach) เล่าถึงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว กับความตั้งใจที่จะสร้าง “ความสุขทางการเงิน” ให้คนไทย
“คนที่เป็นหนี้บางครั้งเกิดจากความไม่รู้ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่า เขาเป็นคนไม่ดี ฟุ่มเฟือย และพอไม่มีความรู้ทางการเงินก็พยายามจะหารายได้มากขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยไม่รู้ว่าความรู้ทางการเงินต่างหากที่จะช่วยแก้ปัญหา ซึ่งหลังจากที่ผมแก้ปัญหาของตัวเองได้แล้วก็มีความตั้งใจว่า จะให้ความรู้ทางการเงินกับคนไทยทั้งประเทศ” จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม (The Money Coach) เล่าถึงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว กับความตั้งใจที่จะสร้าง “ความสุขทางการเงิน” ให้คนไทย
จนเกิดเป็นหลักสูตร Money Literacy ที่เขาเรียกเองว่านี่คือ “หลักสูตรการเงินพื้นฐานเพื่อคนไทยทั้งประเทศ” และเดินสายเปิดสอนทั่วประเทศ โดยร่วมงานกับ ศักดาสรรพปัญญาวงศ์ (A-Academy) และ ถนอมเกตุเอม (TAXBugnoms) ในรูปแบบคอร์สสัมมนา
หลังการสัมมนาครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2558 โค้ชหนุ่มโพสต์ไว้ในเพจ Money Coach ว่า
...คอร์สเราสอนกัน 2 วัน ค่าเรียน 1,500 บาท รวมอาหารกลางวันอาหารว่าง และเอกสาร ค่าตัววิทยากรไม่มี
หลายคนถามว่า “เราได้อะไร”
คำตอบแบบตรงไปตรงมาก็คือ “เราสามคนไม่เคยสนใจว่าเราได้อะไร เราสนใจแต่ว่าเรามีอะไร และเราให้เราแบ่งปันอะไรให้กับประเทศและเพื่อนร่วมชาติของเราได้บ้าง” นอกเหนือกว่านี้ ไม่ได้คิดเอาไว้จริงๆ...
มาถึงวันนี้ โค้ชหนุ่ม ยังยืนว่ายังสามารถบริหารจัดการให้คอร์สนี้เลี้ยงตัวเองได้ แม้จะคิดค่าเรียนราคาถูกขนาดนี้
แต่หลังจากนี้ ความรู้ที่อยู่ในหลักสูตรการเงินพื้นฐานเพื่อคนไทยทั้งประเทศจะถูกถ่ายทอดลงไปในเว็บไซต์ชื่อว่าคนไทยฉลาดการเงิน.com
“ต้นปี 2560 เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ และนำความรู้ทางการเงินที่เราสอนในสัมมนา 2 วัน มาเปิดให้ดูฟรี และให้ดูก่อนที่จะมาเข้าสัมมนา เพราะในปี 2560 รูปแบบของคอร์สจะเปลี่ยนไปเป็น Workshop ที่ทำให้มีแผนการเงินที่สามารถทำได้ทันทีเมื่อเดินออกจากสัมมนาไป เช่น คนที่มีหนี้มากจะรู้เลยว่า จะต้องทำอะไรก่อนอะไรหลัง
แต่เรียนกับเราไม่ได้บอกว่า จะทำให้ร่ำรวยมาก แต่เป็นการให้ความรู้พื้นฐานทางการเงิน ที่เรียนแล้วจะได้สบายใจ หมดกังวลกับการเงินในชีวิตประจำวัน และไปทำอะไรที่มีความสุข เป็นกำลังสำคัญของประเทศได้” จักรพงษ์ กล่าว
เช่นเดียวกับคนที่เข้าร่วมสัมมนาในรุ่นก่อนๆ ที่นอกจากจะมีความสุขทางการเงินแล้ว ยังผลิดอกออกผลมาเป็น “เครือข่ายคนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี” มากกว่า 1,500 คน ทั่วประเทศที่พร้อมจะเป็นทีมงานในการจัดบรรยายเพื่อส่งความสุขทางการเงินให้กับคนอื่นๆ ต่อไป
และจากคอร์สสัมมนาที่เริ่มมีคนฟังเพียง 10 คน เติบโตมาจนจัดตั้งเป็น “มูลนิธิคนไทยฉลาดการเงิน” เพื่อทำในสิ่งที่ใหญ่ขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อคนในวงกว้างมากขึ้น
ในปีนี้จะเปิด “คลินิกหนี้” ที่เปิดโอกาสให้คนที่มีปัญหาหนี้เข้ามาปรึกษา ให้เราช่วยแก้ปัญหา โดยในคลินิกจะมีทั้งโค้ชการเงินตัวแทนธนาคาร ฝ่ายกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังมีโครงการสอนสร้างรายได้เพิ่มโดยใช้ช่องทางออนไลน์ ขายสินค้าในชุมชน ส่งออกไปต่างประเทศได้ด้วยตัวเอง
อีกโครงการหนึ่งที่จะเกิดในปี 2560 คือ การผลิตสื่อด้านการเงิน เพื่อนำไปแจกให้กับนักเรียนและนักศึกษา
จักรพงษ์ บอกว่า ที่ผ่านมา คนที่มาเรียนในคอร์สจะอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25-34 ปี ซึ่งน่ายินดีมาก เพราะถ้าเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วัยนี้จะไม่สร้างภาระทางการเงินโดยเฉพาะในช่วง 10 ปีแรก ของการทำงาน และจะมองเห็นอนาคตตัวเองอย่างชัดเจน
“แต่การมาเริ่มเรียนรู้เมื่อโตแล้วก็ช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น จึงอยากจะไปเริ่มให้ความรู้ตั้งแต่ก่อนจบการศึกษา เพราะความรู้ทางการเงิน ถือเป็นทักษะพื้นฐาน โดยเฉพาะในเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน คนที่ไม่มีความรู้ทางการเงินจะเสียเปรียบมาก แต่กลับไม่ค่อยมีคนสอน” จักรพงษ์ กล่าว


