เอกพล กิตติรัตนาภินันท์ นำ ‘เชอร์แมน’ แบรนด์ไทยสู่สากล
โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์
โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์
เสียงเบสทุ้มแน่นที่ดังออกมาจากเครื่องเสียงดีไซน์ล้ำ แบรนด์ เชอร์แมน (Sherman) หากไม่บอกก็คงคิดว่าเป็นเครื่องเสียงสัญชาติตะวันตก แต่ความจริงสามารถบอกได้อย่างภาคภูมิใจว่า “เชอร์แมน” เป็นเครื่องเสียงคุณภาพ แบรนด์คนไทย ผลิตเพื่อคนไทย และบริหารงานโดยคนไทย 100%
เอกพล กิตติรัตนาภินันท์ ประธานกรรมการหนุ่มไฟแรงแห่งบริษัท นิคอนไทยเซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เล่าให้ฟังว่า 19 ปีที่ธุรกิจนี้ตั้งต้นเล็กๆ ตั้งแต่รุ่นพ่อ (สมชัย กิตติรัตนาภินันท์) กิจการเติบโตจากดีลเลอร์ซื้อ-ขายดอกลำโพงและเครื่องเสียงญี่ปุ่น เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนได้ที่ จึงผันมาเป็นผู้ผลิต โดยนำโนว์ฮาวจากเยอรมนีมาพัฒนาเครื่องเสียงคุณภาพสูง มีโรงงานผลิตและประกอบที่ได้มาตรฐานอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมสร้างแบรนด์เชอร์แมน เป็นของตนเอง จนกระทั่งวันนี้นับเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของแบรนด์ที่ยังเป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคผู้รักเสียงเพลงและความบันเทิงทั้งหลาย
“เทคนิคการเดินแบรนด์ของคุณพ่อ ท่านจะให้ความสำคัญกับการสร้างคน ในการทำหน้าที่อธิบายตัวตนของแบรนด์ และแนะนำผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง ณ จุดขาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านของดีลเลอร์ ห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ เพาเวอร์บาย โฮมโปร หรือดิสเคาต์สโตร์อย่างแม็คโคร บิ๊กซี โลตัส ตอนที่ผมเข้ามาสานต่อธุรกิจ ท่านได้สร้างพื้นฐานเหล่านี้ไว้อย่างแข็งแกร่ง และสร้างชื่อเสียงให้ ‘เชอร์แมน’ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียงทั้งภายในและภายนอกบ้าน อาทิ ลำโพงที่มีแอมป์ขยายเสียงในตัว ลำโพงกลางแจ้ง เครื่องขยายเสียง ชุดโฮมเธียเตอร์ และไมโครโฟน”
ทั้งนี้ ได้เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานขาย เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้า รวมทั้งเข้าใจแก่นของการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันสามารถดูแลรับผิดชอบงานด้านการวางแผนธุรกิจองค์กร บริหารพัฒนาธุรกิจ และบริหารการเงินได้อย่างมั่นใจ โดยยังคงยึดมั่นในปรัชญาการทำงานที่ผู้เป็นพ่อได้ส่งต่อไว้ให้ นั่นคือ “ดำเนินธุรกิจด้วยคุณธรรม จริงใจ ตรงไปตรงมา”
“คุณพ่อสอนเสมอว่าในการทำธุรกิจ เราต้อง ‘ใส่ใจ’ และ ‘จริงใจ’ กับผู้บริโภคคนไทย ซึ่งเป็น ‘พลัง’ คอยสนับสนุนให้เรายืนหยัดในธุรกิจเครื่องเสียงมาได้ถึง 19 ปี และมีสินค้าหลากหลายรวมกว่า 40 รายการ”
วันนี้ถ้าเทียบอายุแบรนด์ “เชอร์แมน” กับอายุคนแล้ว ถือว่าเริ่มก้าวเข้าสู่วัยรุ่น มีความคิดสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะลุยไปข้างหน้า เพียงแต่ปัจจุบันผู้บริโภคยุคดิจิทัลมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ความท้าทายในการทำธุรกิจจึงอยู่ที่การสร้างแบรนด์เชอร์แมน ให้แข็งแรง และมีความเป็นสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ
กลยุทธ์ของเอกพลคือ การโฟกัสกลุ่มเป้าหมายไปที่คนรุ่นใหม่ และศึกษาความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีไลฟ์สไตล์การฟังเพลงแบบส่วนตัวอย่างจริงจัง นอกเหนือไปจากกลุ่มลูกค้าหลักของเชอร์แมน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและกลุ่มวัยกลางคนที่มีกำลังซื้อสูง และนิยมสินค้าเครื่องเสียงในกลุ่มโฮมเธียเตอร์เหนียวแน่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“การทำธุรกิจในทุกวันนี้เราจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนตนเองด้วยการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล ในอดีตไลฟ์สไตล์การฟังเพลงนอกบ้านจะต่างคนต่างฟัง แต่กลับเข้าบ้านมาฟังเพลงร่วมกันกับครอบครัว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมฟังเพลงแบบส่วนตัวจากสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็ตาม”
ดังนั้น แผนการตลาดในอนาคต จะเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงในกลุ่ม Personal มากขึ้น เช่น หูฟัง เครื่องเสียงขนาดเล็ก ที่สามารถพกพาติดตัวไปสร้างความบันเทิงได้ทุกที่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเครื่องเสียงดีมีคุณภาพแต่หากผู้บริโภคยุคใหม่ไม่รู้จักแบรนด์ ก็ยากจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ทำให้เครื่องมือหลักในการสร้างแบรนด์เชอร์แมน คือ การอาศัยศักยภาพของพนักงานขายที่ประจำอยู่ช่องทางจำหน่ายต่างๆ กว่า 350 จุดทั่วประเทศ ในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตัวสินค้า และทำกิจกรรมกับลูกค้า ณ จุดขาย ควบคู่กับการใช้สื่อดิจิทัล อาทิ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เกิดกับลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมทั้งทำให้ฐานลูกค้าเก่ามั่นใจในแบรนด์เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อพิสูจน์คุณภาพของเครื่องเสียงแบรนด์ไทยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก ยังท้าทายตนเองด้วยการขยายตลาดไปต่างประเทศ เริ่มต้นเปิดตลาดในกลุ่มซีแอลเอ็มวีตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ได้แก่ สปป.ลาว และกัมพูชา โดยส่งสินค้าไปจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ รวมทั้งออกงานอีเวนต์เพื่อสร้างแบรนด์เครื่องเสียงเชอร์แมน ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ส่งผลให้สัดส่วนส่งออกเครื่องเสียงเชอร์แมน อยู่ที่ 10% ในปัจจุบัน
หลังจากขยายตลาดเข้าไปยังกลุ่มซีแอลเอ็มวี ทำให้สัมผัสได้ถึงศักยภาพของกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งชื่นชอบสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก วัฒนธรรมการใช้เครื่องเสียงของประเทศเพื่อนบ้านถือว่ามีความคล้ายคลึงกับไทย นั่นคือ จะมีการจัดงานรื่นเริงกลางแจ้งอยู่บ่อยครั้ง ทั้งงานเล็ก งานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ วันปีใหม่ ฯลฯ โดยนิยมใช้เครื่องเสียงกลางแจ้งไซส์ใหญ่ เสียงดังและกว้าง
จุดแข็งอีกประการหนึ่งที่ทำให้รุกตลาดต่างประเทศอย่างมั่นใจ คือ การมีพันธมิตรที่มั่นคง มีศักยภาพและน่าเชื่อถือ เป็นผู้นำเข้า-ส่งออกเครื่องเสียงเชอร์แมน ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ซึ่งดีลเลอร์ส่วนใหญ่มั่นใจในแบรนด์เชอร์แมน เพราะใส่ใจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในทุกขั้นตอน จำหน่ายในราคาสมเหตุสมผล ที่สำคัญยังได้รับเครื่องหมาย Thailand Trust Mark จากกระทรวงพาณิชย์อีกด้วย
สำหรับตลาดประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นรักษา “เชอร์แมน” ให้เป็นเครื่องเสียงโลคอลแบรนด์สายพันธุ์ไทยระดับต้นๆ ของประเทศ โดยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับสินค้าที่ถือเป็นไฮไลต์ในช่วงปลายปีนี้ คือ ลำโพง รุ่น SB22B2B ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ตรงที่เครื่องเล็ก ฟังก์ชั่นครบ ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัด ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 3.6 กิโลกรัม สะดวกพกพาไปสร้างความบันเทิงในทุกสถานที่ เจาะตลาดผู้บริโภคคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชั่นบลูทูธ ซึ่งสามารถเลือกฟังเพลงโปรดจากโทรศัพท์มือถือ และสามารถปรับเสียงเบสได้ เพื่อให้ผู้บริโภคที่รักการฟังเพลงสัมผัสความสุขได้อย่างเต็มพลังเสียง
“เหนืออื่นใดคือ การมุ่งรักษาคุณภาพสินค้าในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียง นอกจากจะสนับสนุนให้ผู้บริโภคคนไทยหันมาใช้สินค้าไทยกันมากขึ้นยังต้องการจะสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ไทยอย่างเชอร์แมนไปสู่ตลาดสากลต่อไปด้วย”นี่คือภารกิจที่ท้าทายนักธุรกิจรุ่นใหม่ แบรนด์เชอร์แมน


