รอยร้าวที่เกิดจากบ้านทรุด (ตอนที่ 7)

...ธเรศ วีระศิริ

นอกจากรอยร้าวที่ผนัง คาน พื้น แล้ว คราวนี้เราลองมาสังเกตดูรอยร้าวที่เสากันบ้างครับ

รอยร้าวที่เสา

รอยร้าวที่เสาเท่าที่พบโดยทั่วไปพอจำแนกได้เป็น 4 แบบหลักๆ คือ รอยแตกลายงา รอยแตกเฉียงที่หัวเสา รอยแตกแนวดิ่ง รอยแตกแนวนอน รอยแตกเหล่านี้มีสาเหตุแตกต่างกัน ก่อนการแก้ไขควรพิจารณาหาสาเหตุที่ชัดเจนก่อน

รอยแตกลายงา รอยแตกประเภทนี้ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักบรรทุกหรือกำลังของวัสดุ ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพของวัสดุที่ฉาบเสา เช่น ปูนฉาบ ก่อนฉาบปูนไม่ได้พรมน้ำที่ผิวเสา ผิวเสาเดิมที่ปล่อยตากลมไว้นานอาจอยู่ในสภาพแห้งมากจะดูดน้ำออกจากปูนฉาบ ทำให้ปูนฉาบมีน้ำไม่เพียงพอ เกิดการหดตัวแตกเป็นลายงา

รอยแตกเฉียงที่หัวเสา รอยแตกเฉียงลึกที่หัวเสาและเป็นรอยแตกทะลุทั้งสองด้านของเสา ส่วนใหญ่เกิดจากคานที่เชื่อมต่อหัวเสารับน้ำหนักบรรทุกเกินกำลังจนเกิดการแอ่นตัวและส่งผลให้เกิดแรงบิดที่หัวเสา รอยแตกร้าวประเภทนี้เกี่ยวข้องกับกำลังของโครงสร้างโดยตรง ดังนั้นจึงควรปรึกษาวิศวกรและรีบดำเนินการแก้ไข

รอยแตกแนวดิ่ง รอยแตกแนวดิ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใกล้เหลี่ยมเสาและอยู่โคนล่างของเสาอาจเกิดได้ทั้งเสาชั้นล่างและเสาชั้นบน แต่ส่วนใหญ่จะเกิดกับเสาชั้นล่างมากกว่า มักเกิดกับเสาต้นที่อยู่ใกล้บริเวณที่มีความชื้นมากๆ เช่น ห้องน้ำ สนามหญ้า และส่วนที่น้ำท่วมถึง รอยร้าวประเภทนี้เกิดจากความชื้นเข้าไปสัมผัสกับเหล็กเสริมทำให้เกิดสนิม

เมื่อเหล็กเป็นสนิมจะบวมตัวดันให้คอนกรีตปิดผิวกะเทาะหลุดล่อนออก และเนื่องจากเหล็กเสริมหลักของเสาเป็นเหล็กยืนอยู่ตามมุม ดังนั้นจึงมักพบเห็นรอยแตกเกิดขึ้นที่มุมเสาเป็นรอยแตกแนวดิ่งขนานไปตามความยาวของเหล็กเสริม

รอยแตกแนวนอน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจรอยแตกแนวนอนเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะลักษณะของรอยแตกไม่น่ากลัวเมื่อเทียบกับรอยแตกแนวดิ่งและรอยแตกเฉียงที่มักเกิดเป็นรอยกว้าง แต่ความเป็นจริงแล้วรอยแตกแนวนอนมีความสำคัญมากและควรให้ความสนใจทุกครั้งที่พบเห็น เพราะรอยแตกแนวนอนบางลักษณะเกิดขึ้นจากฐานรากทรุดตัว