กรุงโรม... ไม่ได้สร้างวันเดียว
ผมมาเยือนกรุงโรมศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ในอดีต เมืองที่มีอายุยาวนานกว่า 2,500 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไทเบอร์ เคยเจริญทั้งเทคโนโลยี ศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม ซึ่งถือเป็นต้นแบบของอารยธรรมตะวันตก
ผมมาเยือนกรุงโรมศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ในอดีต เมืองที่มีอายุยาวนานกว่า 2,500 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไทเบอร์ เคยเจริญทั้งเทคโนโลยี ศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม ซึ่งถือเป็น
ต้นแบบของอารยธรรมตะวันตก
นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมโคลอสเซียมสนามกีฬานักต่อสู้ Gladiator ที่จุคนได้ถึง 8 หมื่นคน สร้างมาเกือบสองพันปี และต้องมาเยือนมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกัน ที่อยู่ใจกลางกรุงโรมแห่งนี้ เพื่อชมภาพเขียนผนังสุดอลังการของไมเคิล แองเจโล ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของโลกยุคเรอเนสซองซ์ อีกทั้งน้ำพุเทรวี ที่หนุ่มสาวทั่วโลกมาเพื่อขอแต่งงาน หรือโยนเหรียญนำโชค ขอให้ได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกสักครั้ง
กรุงโรมยิ่งใหญ่มาก จนกวีเอกชาวอังกฤษ จอห์น เฮย์วูด (JohnHeywood) เขียนคำคมไว้ว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียว” เพื่อเตือนใจให้รู้ว่า ความยิ่งใหญ่นั้นมีจุดเริ่มต้นและต้องใช้เวลาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะคาดหวังให้เห็นผลในวันเดียวหรือช่วงเวลาสั้นๆ คงจะเป็นไปไม่ได้
เพราะสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในกรุงโรมแทบทุกที่ใช้เวลาก่อสร้างนานนับร้อยปีหรือหลายร้อยปี ผู้นำที่เริ่มต้นส่วนใหญ่ไม่มีใครจะได้เห็นผลงานความฝันของตนเองเสร็จสมบูรณ์ในช่วงชีวิต ผู้นำรุ่นต่อมายังคงต้องสานงานต่อ จนเราได้ยลโฉมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่กรุงโรม และอยู่ยืนยาวคู่ประวัติศาสตร์โลกสืบมา
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกรุงโรม 7 ล้านคน/ปี ถือเป็นเมืองที่มีคนมาเยือนอันดับ 14 ของโลก ตามหลังกรุงเทพฯ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยือนถึงปีละ 18 ล้านคน ถือเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกรุงลอนดอนเท่านั้น ถึงแม้จะมีคนมาเยือนน้อยกว่า แต่จากข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศอิตาลี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอิตาลีสร้างรายได้เข้าประเทศถึงปีละประมาณ 6 แสนล้านบาท มากกว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า
นอกจากนักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายมากกว่าที่กรุงโรม เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ ยังมีข้อมูลอีกว่านักท่องเที่ยวใช้เวลาที่กรุงโรมหลายวันกว่าที่ใช้เวลาที่กรุงเทพฯ ที่พักก็พักเพียงแค่คืนเดียว หรือใช้เป็นทางผ่านเพื่อไปเที่ยวที่ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต
กรุงโรมแม้ยามค่ำคืนก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่โบราณทางประวัติศาสตร์ ทำให้ทุกพื้นที่ดูคึกคักน่าเดินชม และรู้สึกปลอดภัยแม้กลางดึก ถึงแม้จะเป็นเมืองโบราณ การเดินทางเชื่อมต่อโดยเฉพาะการเดินเท้าจากจุดสนใจจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งทำได้สะดวกมาก จนนักท่องเที่ยวทั้งเดิน ทั้งช็อป ซื้อของพื้นเมือง ของที่ระลึก เพลิดเพลินจนไม่รู้ว่าเดินกันมาหลายกิโลเมตรแล้ว
ผมลองจินตนาการว่า หากเราพัฒนาทางเดินเพื่อท่องเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์ไทย จากพระที่นั่งอนันตสมาคม ตามเส้นทางถนนราชดำเนินนอกถึงสนามหลวง และทำทางเดินเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ตั้งแต่หัวลำโพงถึงทำเนียบรัฐบาล แล้วเชื่อมต่อไปถึงทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดี นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยได้เดินชมความงามของเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อเนื่องถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แล้วชมพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ซื้อของบนถนนข้าวสาร จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่าเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมไทย ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กรุงโรม
แต่จินตนาการของผมคงไม่มีวันเป็นจริง หากเราไม่เริ่มนับหนึ่งกันเสียที หากไม่เริ่มวันนี้นับวันยิ่งยากที่จะเริ่ม เพราะติดทั้งเรื่องงบประมาณและปัญหารอบด้าน
กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียวฉันใด กรุงเทพฯ จะสวยงามได้ ก็คงไม่ได้สร้างวันเดียวฉันนั้น แต่ขอให้กล้าคิด กล้าเริ่มต้นเถอะครับ ยังไงก็สำเร็จ


