แอปเปิ้ลเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่อัพเกรดSiriให้เจ๋งกว่าเดิม
แอปเปิ้ล เปิดตัวแผนพัฒนาซอฟต์แวร์ ยกระดับSiriให้ใช้ร่วมกับแอพฯอื่นๆ ได้ หวังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยบริการ
แอปเปิ้ล เปิดตัวแผนพัฒนาซอฟต์แวร์ ยกระดับSiriให้ใช้ร่วมกับแอพฯอื่นๆ ได้ หวังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วยบริการ
แอปเปิ้ล อิงค์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังอย่างไอโฟน เปิดตัวซอฟต์แสวร์ใหม่ในงาน Worldwide Developers Conference ที่ซานฟรานซิสโก หนึ่งในนั้น คือ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะบนอุปกรณ์ของแอปเปิ้ล หรือที่คนไทยเรียกกันว่า สิริ โดยแอปเปิ้ลเปิดตัวเครื่องมือที่ทำให้สิริสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้เพิ่มเติม เพื่อแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีเจ้าอื่นที่ต่างปล่อยตัวผู้ช่วยอัจฉริยะสั่งการด้วยเสียง เช่น อเมซอนและไมโครซอฟต์
ยกตัวอย่าง สิริตัวใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถเรียกรถแท็กซี่จากบริการของอูเบอร์ แอพพลิเคชันแท็กซี่ ได้เพิ่มเติมจากการที่ผู้ใช้สามารถแค่สั่งการให้โทรศัพท์ ค้นหารูปภาพ ค้นหาผลลัพธ์ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งถ้าใครใช้บริการของเจ้าสิริ ก็คงรู้กันดีว่า สิริชอบชักชวนให้เข้าค้นหาผลลัพธ์ทางเสิร์ชเอ็นจิ้นอยู่บ่อยๆ
สำหรับ iMessage แอปเปิ้ลจะเพิ่มการใช้งานให้ iMessage นอกจากจะสามารถส่งข้อความได้แล้ว ยังจะเปิดบริการให้ iMessage สามารถชำระเงินหรือสั่งอาหารได้ผ่านผู้ให้บริการที่สาม ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้เป็นอย่างมาก รวมถึงยังเปิดตัว emoji หรือไอคอนแสดงอารมณ์ตัวใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม รวมถึงภาพเคลื่อนไหวได้และปุ่มที่สามารถตอบรับได้รวดเร็วในลักษณะเดียวกับปุ่มไลค์ของแอพพลิเคชัน Messenger ของเฟซบุ๊ก
ในขณะเดียวกัน แอปเปิ้ลยังประกาศจะยกระดับ Apple Music บริการเพลงสตรีมมิ่งของแอปเปิ้ล ให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น โดยจะเปลี่ยนรูปแบบของปุ่มต่างๆ ในแอพพลิเคชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา หลังประสบปัญหาผู้ใช้หันมาใช้แอพพลิเคชันดังกล่าวในอัตราที่ต่ำมาก อยู่ที่ 15 ล้านคนในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจาก 13 ล้านคนในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการเพลงสตรีมอื่นๆ เช่น Spotify ที่ 30 ล้านคน
ทั้งนี้ แอปเปิ้ลพยายามปรับตัวรับกับยุคที่ยอดขายสมาร์ทโฟนปรับตัวลดลง โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา แอปเปิ้ลเผชิญกับรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี จากยอดขายไอโฟนที่ปรับตัวลดลงเป็นครั้งนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2007
ก่อนหน้านี้ แอปเปิ้ล ประกาศลดค่าธรรมเนียมแอพพลิเคชั่นประเภทบอกรับสมาชิก (Subscription) สำหรับนักพัฒนาที่จำหน่ายแอพพลิเคชั่นผ่านแอพสโตร์ จาก 30% เหลือ 15% ทำให้นักพัฒนาจะได้รับเงินเพิ่มจากแอพพลิเคชั่นเป็น 85% หลังผู้ใช้บอกรับเป็นสมาชิกไปแล้ว 1 ปี จากสัดส่วนในปัจจุบันที่ 70% เพื่อดึงนักพัฒนาแอพพลิเคชัน


