posttoday

The Monk Studios พ่อมดแอนิเมชั่นไทย

15 เมษายน 2559

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

เพราะโลกแห่งความฝันมันช่างสนุก และหากนำออกมาสู่ “ความจริง” ได้ก็คงเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ ที่ทำให้ นิธิพัฒน์ สมสมาน มองเห็นโอกาสธุรกิจด้านดิจิทัล คอนเทนต์ โดยเฉพาะในกลุ่มแอนิเมชั่นการ์ตูนเคลื่อนไหว ที่ใช้ทีมพัฒนาและดำเนินการผลิต (โปรดักชั่น) ในประเทศไทย เพื่อทำตลาดส่งออกต่างประเทศ   

นิธิพัฒน์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ มั้งค์ สตูดิโอ (The Monk Studios) ย้อนเล่าถึงที่มาธุรกิจเริ่มขึ้นเมื่อราว 9 ปีก่อน ที่ได้ไอเดียมาจากช่วงที่น้องชายทำงานด้านวิชวล เอฟเฟกต์ กับบริษัทแอนิเมชั่นแห่งหนึ่งในสหรัฐ และต้องเดินทางไปมาระหว่างสหรัฐและอินเดียเพื่อฝึกบุคลากรด้านนี้บ่อยครั้ง และมองเห็นว่าคนไทยมีศักยภาพมากพอที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมแอนิเมชั่นในตลาดสากลได้

“เมื่อก่อนตัวผมเองทำธุรกิจด้านออกแบบกราฟฟิก ซึ่งต่อยอดไปงานแอนิเมชั่นได้ เมื่อไอเดียมาแล้วก็เริ่มลงมือทำทันทีจากการเป็นสตาร์ทอัพเอสเอ็มอีจริงๆ ที่ทำกันอยู่เพียงไม่กี่คนถึงปัจจุบันธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ” นิธิพัฒน์ เสริม

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจุดแข็งด้านทีมงานแล้ว ยังมาจากการวางตำแหน่ง (โพสิชันนิ่ง) เดอะ มั้งค์ฯ ตั้งแต่แรกเริ่ม คือการทำงานที่เน้นคุณภาพด้วยมาตรฐานสากล จากความตั้งใจที่จะป้อนงานเข้าสู่ตลาดสหรัฐเป็นหลัก ต่างจากเอสเอ็มอีอื่นๆ ที่เมื่อเริ่มต้นมักทำตลาดภายในก่อนขยายไปต่างประเทศ

ดังนั้น พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ทางธุรกิจจึงมีบทบาทสำคัญ ด้วยจะเป็นผู้ช่วยนำไปสู่การรับงานในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในโลกแอนิเมชั่นระดับฮอลลีวู้ด ที่ผู้พัฒนาจะต้องมีทักษะที่โดดเด่น โดยเดอะ มั้งค์ฯ ครองคุณสมบัติข้อนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับงานชิ้นแรกที่บริษัทได้สร้างคาแรกเตอร์ขึ้นมา คือ “พี่สิงห์” พรีเซนเตอร์สุดเท่ไอศกรีมตราแพดเดิลป๊อปของบริษัท ยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ ถึงปัจจุบันบริษัทก็ยังได้รับโอกาสให้ร่วมงานกับบริษัทดังกล่าวอยู่ และช่วยสะสมแต้มต่อในการทำงานในระดับโปรเฟสชันนัลเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อพาผู้ประกอบการออกไปโรดโชว์ต่างประเทศ เกิดการจับคู่ธุรกิจร่วมกัน และการจ้างงานข้ามชาติ ซึ่งทำให้ธุรกิจมีความคุ้นเคยกับการงานระดับสากลได้เป็นอย่างดี ที่เปิดโอกาสเข้าสู่การสร้างงานมาตรฐานระดับฮอลลีวู้ดด้วย

ขณะที่จุดเด่นของนักแอนิเมชั่นไทยที่เติบโตมากับโลกการ์ตูน 2 วัฒนธรรม ทั้งมังงะ (Manga) ของญี่ปุ่น และเหล่าคอมมิกส์ จากค่ายดีซี มาร์เวล ของสหรัฐ ที่สามารถผสานคาแรกเตอร์จากทั้งสองฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างไปจากนักพัฒนาแอนิเมชั่นชาติอื่น

นิธิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังได้พัฒนา ชอร์ตแอนิเมชั่น หนังสั้นการ์ตูนออกมาหลายเรื่อง และได้รับรางวัลในเวทีการประกวดต่างๆ ทั่วโลก อาทิ “เอสเคป ออฟ เดอะ จิงเจอร์เบรดแมน” ที่ได้รับถึง 14 รางวัล เมื่อปี 2554 หรือในปี 2557 จากแอนิเมชั่นเรื่อง “ไนน์” ที่ได้รับ 11 รางวัล เป็นต้น ที่ต่อยอดมายังแผนธุรกิจบริษัทในปีนี้ ที่ต้องการพัฒนาคาแรกเตอร์แอนิเมชั่นที่เป็นลิขสิทธิ์ หรือไอพี (อินเทลเลคชวล พร็อพเพอร์ตี้) ของตัวเอง อย่างตำรวจสายสืบคุณหมี “เอฟบีไอ ฟันนี แบร์ อินเวสติเกอเตอร์” ที่กำลังเตรียมออกสู่ตลาด

ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนสร้างสตูดิโอแห่งใหม่ คาดแล้วเสร็จในปลายปีนี้ เพื่อรองรับการผลิตงานแอนิเมชั่นเพื่อป้อนตลาดสากล โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่อยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวคาดจะผลักดันให้บริษัทปีนี้มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15%

ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแอนิเมชั่นคนไทยที่ออกไปไกลได้ด้วยฝีมือและแนวคิดระดับสากล

ข่าวล่าสุด

อัปเดต! เลือกตั้งล่วงหน้าวิธีลงทะเบียน-ใช้สิทธิ์ 3 ช่องทาง