การขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุน National e-Payment
โดย..อิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล
โดย..อิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล
หนึ่งในยุทธศาสตร์ของโครงการ National e-Payment ของรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ Cashless Society คือ เรื่องการขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต ผ่านระบบ EDC แห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะวางเครื่อง EDC สำหรับรับชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั่วประเทศ
การวางโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ได้ ทำให้สามารถทราบข้อมูลการทำรายการต่างๆ ได้ชัดเจน และข้อมูลดังกล่าวช่วยให้สามารถนำไปกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งในปัจจุบันการทำธุรกรรมผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ มากกว่าร้อยละ 95 มาจากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประเภทบัตรเครดิต
จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย มีผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ทั้ง Bank และ Non-Bank ประมาณ 20 สถาบัน ผ่านผู้ให้บริการโครงข่ายชำระเงินต่างๆ เช่น VISA, Master Card, JCB, CUP (UnionPay), American Express เป็นต้น ผู้ให้บริการโครงข่ายดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการจากต่างประเทศเป็นหลัก ภายใต้การดำเนินการตามโครงการ National e-Payment อาจจะทำให้เกิดผู้ให้บริการโครงข่ายชำระเงินภายในประเทศต่อไป
สำหรับตัวบัตรเครดิต ข้อมูล ณ ธ.ค. 2558 จำนวนบัตรเครดิตทั้งระบบมีจำนวน 21.76 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.46 ล้านบัตร คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 7.18 โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 1.65 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 6.06 จำแนกเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1.46 ล้านล้านบาท และปริมาณการเบิกเงินสดล่วงหน้า 0.18 ล้านล้านบาท โดยมียอดคงค้างในระบบอยู่ที่ 0.34 ล้านล้านบาท ขณะที่ยอดค้างชำระเกิน 3 เดือน มีอัตราที่สูงขึ้น ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่อัตราร้อยละ 3.10 หรือกว่า 10,452 ล้านบาท ส่งผลทำให้สถาบันการเงินต่างๆ เพิ่มความ
เข้มงวดและกลั่นกรองลูกค้าใหม่มากขึ้น และปริมาณการใช้จ่ายที่ลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลต่อภาคการอุปโภคบริโภค
อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินต่างๆ ได้พยายามกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่มลูกค้าระดับบน ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมการตลาดต่างๆ ที่แต่ละสถาบันต่างๆ ดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม หรือการขยายฐานลูกค้าสู่ภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาช่องทางต่างๆ พร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัล เป็นต้น และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการทำแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เช่น การผ่อนชำระ 0% การขยายช่องทางการใช้บัตรให้มากยิ่งขึ้น การสะสมคะแนนแลกของรางวัล ช่องทางการชำระเงินคืนมีความสะดวกและเข้าถึงง่าย และการให้ Cash Back สำหรับร้านค้าที่ร่วมรายการ เป็นต้น
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือธุรกิจของบัตรเครดิต ที่จะมีเรื่องของการออกบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประเภทบัตรเครดิตให้กับผู้บริโภค และการรับชำระบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครื่องรับชำระเงิน หรือเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) โดยผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญตามโครงการ National e-Payment
สำหรับการเตรียมตัวของธนาคารออมสิน ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐธนาคารออมสินได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์และร้านค้ารับบัตร เพื่อสนับสนุนนโยบายตามโครงการ National e-Payment ดังจะเห็นได้จากการเปิดให้บริการธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารโดยเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้มีการเปิดตัวบัตรเครดิตธนาคารออมสินเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในเบื้องต้นได้เปิดตัวบัตรเครดิตธนาคารออมสินจำนวน 3 รูปแบบ ครอบคลุมลูกค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ บัตรเครดิตธนาคารออมสิน เพรสทีจ บัตรเครดิตสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบน บัตรเครดิตธนาคารออมสิน พรีเชียส สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่อเดือน 3 หมื่นบาทขึ้นไป และบัตรเครดิตธนาคารออมสิน พรีเมียม บัตรเครดิตสำหรับลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้ต่อเดือน 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งตามยุทธศาสตร์ในการขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตามโครงการ National e-Payment
วันนี้ธนาคารออมสินพร้อมให้บริการ ทั้งการออกบัตรอิเล็กทรอนิกส์และการขยายช่องทางรับชำระเงินผ่านเครื่องชำระเงิน EDC เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคม Cashless Society ต่อไป


