ไฮนซ์ทุ่ม100ล้านลุยขยายตลาดต่างประเทศ

วินแชนซ์ ฟู้ดส์ ปรับโครงสร้างบริษัท ทุ่ม 100 ล้านบาท เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้า 5 ปี สัดส่วนเพิ่ม 45% จาก 30% ฟันยอดขาย 1,000 ล้านบาท

นายบุญส่ง สงวนวรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วินแชนซ์ ฟู้ดส์ ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอส ภายใต้แบรนด์ ไฮนซ์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนเป็นเงิน 100 ล้านบาท ในการซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 40% หรือ 2 หมื่นตันต่อปี จาก 1.4 หมื่นตันต่อปี เพื่อรองรับแผนการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตทางด้านยอดขายจากการส่งออกทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ ไฮนซ์ และการรับจ้างผลิต ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีทีผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตจากการส่งออกถึง 25% ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จาการส่งออก 30% และรายได้จากภายในประเทศ 70%

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนระยะ 5 ปี นับจากปีนี้เป็นต้นไป หรือในปี 2558 บริษัทจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก 40 – 45% และสัดส่วนรายได้จากภายในประเทศ 60 – 65% และในปีนี้ที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 700 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 12% หรือมีรายได้กว่า 600 ล้านบาท

สำหรับการปรับโครงสร้างของบริษัทเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 เมื่อบริษัทได้ซื้อหุ้นคืนทั้งหมด 80% จาก บริษัท เอช เจ ไฮนซ์ สหรัฐอเมริกา เจ้าของลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ ไฮนซ์ บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อจาก ไฮนซ์ วินแชนซ์ เป็น วิน แซนช์ ฟู้ดส์ ส่งผลให้บริษัทสามารถรับจ้างผลิตสินค้าได้หลากหลายแบรนด์ และเป็นโอกาศในการเติบโตที่สูงมากจากตลาดต่างประเทศ จากเดิมที่ผลิตสินค้าป้อนให้บริษัทแม่เท่านั้น ล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่จาก 2 ประเทศแล้ว โดยหนึ่งในนั้นเป็นแบรนด์ชั้นนำของประเทศอังกฤษ และยังมีตลาดในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ที่เป็นตลาดที่น่าสนใจของบริษัท

ส่วนตลาด ซอสในประเทศไทยมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 5% หรือไม่เติบโต โดยแบ่งเป็นตลาดซอสมะเขือเทศ 260 ล้านบาท ตลาดซอสพริก 320 ล้านบาท และซอสหอยนางรม 1,400 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำในตลาดซอสมะเขือเทศและซอสพริกด้วยส่วนแบ่งตลาด 32% จากตลาดค้าปลีกผ่านห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่

นอกจากนี้ บริษัทยังวางงบการตลาดรวมไว้ปีละประมาณ 50 ล้านบาท ปีนี้บริษัทจะเน้นสร้างแบรนด์ พร้อมกับโครงการซีเอสอาร์ในปีนี้