ไฮเออร์ชูจีทีเอ็มร่วมผลิต

ไฮเออร์ ผุดโครงการ “จีทีเอ็ม” ดันไทยฐานการผลิตตู้เย็นคุณภาพสูงราคาประหยัด

นายอาณัติ จำชาติ ผู้บริหารอาวุโสด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไฮเออร์ อิเลคทริค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (ไวท์ กู๊ดส์) ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ แบรนด์ไฮเออร์ เปิดเผยว่า บริษัทแม่ในประเทศจีนมอบนโยบายการทำงานร่วมกันใน 3 ประเทศ คือ จีน ไทย และญี่ปุ่น ภายใต้โครงการ “จีทีเอ็ม” หรือ โกลบอล ท็อป เมาท์ (Global Top Mouth) ใช้งบลงทุนกว่า 180 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะนำร่องด้วยการพัฒนาและออกแบบสินค้าหมวดตู้เย็น เน้นออกแบบคุณภาพสูง แต่จำหน่ายในราคาประหยัด หรือราคาต่ำกว่าสินค้าแบรนด์เนมอื่นๆ ราว 5-10% ในรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ตามลำดับ

โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาสินค้าจากแบรนด์เนมเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มปลายปีที่ผ่านมาวางแผนผลิตตู้เย็นโนฟรอสต์ จำนวน 6 รุ่น แบ่งเป็น 3 รุ่นเล็ก ขนาดความจุ 220-260 ลิตร และรุ่นกลาง 3 รุ่น ซึ่งบริษัทเตรียมวางแผนการผลิตใน 3 รุ่นแรกในสิ้นปี 2553 นี้ ส่วนรุ่นกลาง เริ่มออกแบบลักษณะจุดศูนย์กลาง (แมตทริกซ์) ในการผลิตแล้ว

นอกจากนี้ ในเดือน ส.ค.จะเริ่มนำร่องทดลองการผลิต ก่อนเดินสายการผลิตจริงในปีหน้า ทำให้โรงงานผลิตตู้เย็นของบริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 1-2 แสนตู้ต่อปี จากปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตตู้เย็น 1.7 ล้านตู้ต่อปี จากกำลังการผลิตรวม 2 ล้านตู้ต่อปี

สำหรับสินค้าดังกล่าววางตำแหน่งเป็นรุ่นเพื่อการแข่งขันราคาในตลาดไฟติงแบรนด์ ระหว่างเจ้าของสินค้าแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันรุนแรงโดยตลาดเป็นผู้กำหนดราคาขาย ทำให้เจ้าของสินค้าจำเป็นต้องลดต้นทุนในการผลิตให้ได้มากที่สุด

นายอาณัติ กล่าวว่า บริษัทแม่ยังได้มอบหมายให้โรงงานกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าตู้เย็นนวัตกรรมใหม่รุ่นราคาประหยัด เพื่อทำตลาดในประเทศ รวมทั้งขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่องนับจากนี้ จากปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากการส่งออกสัดส่วน 75% และในประเทศ 25% โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้กว่า 7,200 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวมกว่า 6,800 ล้านบาท

นายหวางเสี่ยว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) (เอชเอที) ผู้ทำตลาดและขายสินค้าแบรนด์ไฮเออร์ กล่าวว่า บริษัทวางแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าในประเทศมากขึ้น โดยจะพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันกับแบรนด์เกาหลีและญี่ปุ่น บริการหลังการขายสินค้า พร้อมพัฒนาศูนย์บริการไฮเออร์ 5 แห่งในปีนี้ บริการคอลเซ็นเตอร์ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดและเพิ่มจำนวนตัวแทนขาย (ดีลเลอร์)