posttoday

ไม่ดูถูกลูกค้าไม่ดูถูกผู้ใช้ สูตรความสำเร็จ‘เซียงเพียว’

12 กุมภาพันธ์ 2559

โดย...จะเรียม สำรวจ

โดย...จะเรียม สำรวจ

หากพูดถึงกลุ่มสินค้ายาดม ยาหม่อง “เซียงเพียว” ถือเป็นแบรนด์สินค้าที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานเกือบ 60 ปี ด้วยภูมิปัญญาการรักษาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยซินแสถังผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ยาจีนโบราณ ซึ่งอพยพหนีภัยทางธรรมชาติมาจากซัวเถา ในช่วงทศวรรษ 1930 สู่แผ่นดินไทย และได้ผสมสมุนไพรสูตรต่างๆรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้คนย่านสวนพลูจนเป็นที่โจษจันโดยเฉพาะยาหม่องน้ำ

เมื่อซินแสถังเข้าสู่วัยชราได้มีการถ่ายทอดความรู้และตำรับสมุนไพรให้กับ บุญเจือ เอี่ยมพิกุล ผู้เป็นลูกศิษย์  ด้วยความเป็นคนที่ชอบคิดค้นและไม่หยุดนิ่ง บุญเจือจึงทดลองปรับปรุงสูตรยาหม่องน้ำของซินแสถังจนได้สูตรเฉพาะของตัวเอง  หลังจากนั้นก็นำชื่อบิดา คือ “เซียง” มาตั้งเป็นชื่อเรียกสูตรยาสมุนไพร ว่า “เซียงเพียวอิ๊ว” ที่แปลว่า ยาหม่องน้ำยี่ห้อนายเซียง หรือถ้าแปลตามตัวอักษรแบบจีน ก็หมายถึงน้ำมันหอมยี่ห้อที่เหนือกว่า (เซียง = ดีกว่า เหนือกว่า เพียว = ยี่ห้อ)

หลังจากได้สูตรและตั้งชื่อแบรนด์เซียงเพียวอิ๊วเป็นแบรนด์สินค้าเข้าทำตลาด เซียงเพียวอิ๊วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการทำตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ซึ่งต่อมาบุญเจือได้มอบหมายหน้าที่ สุวรรณา เอี่ยมพิกุล บุตรสาว เป็นผู้ดูแลธุรกิจและจากความหลากหลายของสินค้าที่ไม่ได้มีแค่เพียงยาหม่องเพียงอย่างเดียว  สุวรรณาจึงตัดสินใจรีแบรนด์ “เซียงเพียวอิ๊ว” ในปี 2547 เป็นแบรนด์  “เซียงเพียว” และในปีต่อมาได้มีการแตกแบรนด์น้องใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 แบรนด์ คือ  “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” ยาดมและยาหม่องที่มีกลิ่นและดีไซน์เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

ปัจจุบันบริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) มีผลิตภัณฑ์เข้าทำตลาดด้วยกัน 2 แบรนด์ ประกอบด้วย เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์  ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเข้ามาทำตลาดมีอยู่ด้วยกัน 3 รายการ คือ ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว  ยาหม่องเซียงเพียว  ยาดมเซียงเพียว  และล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ “เซียงเพียวรีลีฟ ครีม” เข้ามาทำตลาดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ

สุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) กล่าวว่า  แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทยังคงเดินตามปณิธานในการทำธุรกิจ ด้วยการมุ่งมั่นผลิตสินค้าคุณภาพดี อันเกิดจากการรักษาและสืบทอดมรดกทางปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น และปรารถนาที่จะมีส่วนสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ชุมชนไทย ด้วยการสำนึกว่าบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และทุกคนเกิดมาเพื่อทำดี

อีกหนึ่งวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่สุวรรณายึดปฏิบัติเสมอมา คือ การไม่ดูถูกลูกค้าหรือดูถูกผู้ใช้ สังเกตได้จากกลยุทธ์การทำตลาดที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในประเทศหรือลูกค้าต่างประเทศ เพราะความรู้สึกของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เซียงเพียวรีลีฟ ครีม เข้าทำตลาดแล้ว สุวรรณายังมีแผนจะนำสินค้าดังกล่าวเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศพร้อมกันอีกด้วย  ซึ่งประเทศที่จะให้ความสำคัญในปีนี้ คือ กัมพูชาและเวียดนาม โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา คือ ยาหม่องขี้ผึ้ง ส่วนเวียดนาม สินค้าที่ได้รับความนิยม คือ ยาหม่องน้ำ

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเข้าไปทำกิจกรรมการตลาดอย่างจริงจัง เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ขณะเดียวกันหลังจากนี้อีกประมาณ 5 ปี สุวรรณามีแผนจะใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตสินค้าในประเทศกัมพูชา เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดกัมพูชาและประเทศจีน  เนื่องจากการส่งออกสินค้าจากประเทศกัมพูชาไปประเทศจีนไม่มีกำแพงภาษีนำเข้า

ทั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับประเทศเวียดนามและกัมพูชาแล้ว ประเทศอื่นๆ ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ สหรัฐ โคลอมเบีย หรือเยอรมนี สุวรรณาก็จะให้ความสำคัญกับการนำผลิตภัณฑ์เซียงเพียวเข้าไปทำตลาดเช่นกัน  โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน

“พฤติกรรมของผู้บริโภคในอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวีมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย ทำให้ไม่ต้องการสร้างรับรู้ในแบรนด์สินค้ามากเหมือนกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคอื่นๆ”

หลังจากเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สุวรรณา คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรายได้ในประเทศ จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 50:50

ข่าวล่าสุด

ตราดระอุ ประกาศเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ ยกเว้นเกาะช้างและเกาะกูด