ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสม หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์–พลังงานกดดัน S&P 500

การซื้อขายได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และพลังงาน ท่ามกลางการที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศล่าช้า เพื่อคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีหน้า

 

รายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 64,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากปรับตัวลดลงในเดือนตุลาคม อันเป็นผลจากการปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐ อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.6% ในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากนโยบายการค้าซึ่งเข้มงวดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

ขณะเดียวกัน รายงานอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐทรงตัวในเดือนตุลาคม ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งสำรวจโดยรอยเตอร์สคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการเก็บข้อมูล อันเนื่องมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

ในบรรดา 11 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของดัชนี S&P 500 มีถึง 8 กลุ่มที่ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงมากที่สุด ราว 3% หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2021 ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ลดลง 1.28% โดยหุ้นไฟเซอร์ปรับตัวลดลง 3.4% หลังบริษัทคาดการณ์ว่าปี 2026 จะเผชิญความท้าทายจากยอดขายผลิตภัณฑ์โควิด-19 ที่อ่อนแอลงและอัตรากำไรที่ถูกกดดัน ขณะที่หุ้นฮิวมานาร่วงลง 6% ภายหลังบริษัทประกันสุขภาพรายดังกล่าวประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารโดยไม่เปิดเผยรายละเอียด

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 302.30 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 48,114.26 จุด 

 

ดัชนี S&P 500 ลดลง 16.25 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 6,800.26 จุด 

 

ขณะที่ดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 54.05 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 23,111.46 จุด

 

ราคาน้ำมันร่วงจากคาดการณ์สันติภาพรัสเซีย–ยูเครน

 

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังนักลงทุนประเมินว่าความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร และเพิ่มปริมาณน้ำมันในตลาด ส่งผลกดดันราคาน้ำมัน

 

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ของสหรัฐปิดลดลง 2.73% หรือ 1.55 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 55.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 58.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 2.71% หรือ 1.64 ดอลลาร์

 

 

ทองคำปรับขึ้น รับแรงหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

 

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันอังคาร หลังรายงานการจ้างงานของสหรัฐชี้ว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เสริมความคาดหวังว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

 

ราคาทองสปอต เพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 4,310.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

 

ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐปิดลดลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 4,332.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์