เจาะ 'สวนมะพร้าวน้ำหอม' ผลไม้ดาวรุ่งพยุงเศรษฐกิจ

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

มะพร้าวน้ำหอม หนึ่งในผลไม้มงคลที่ครองตำแหน่งของไหว้ยอดนิยมในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะในช่องทางห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) ที่พบว่ามียอดขายสูงกว่า 3 เท่าตัวเทียบกับช่วงปกติ ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ของชาวสวนมะพร้าวในเวลานี้ ที่หันมาให้ความสำคัญในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดมากขึ้น

สรรค์ชัย ปวุฒิภัทรพงศ์ กรรมการ บริษัท เอ แอนด์ เจ ผลไม้ไทย เจ้าของสวนและผู้ผลิตมะพร้าวน้ำหอมรายใหญ่ จ.ราชบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ส่งมะพร้าวน้ำหอมขายให้กับโมเดิร์นเทรดรายใหญ่อย่างห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส มี 3 รูปแบบ คือ มะพร้าวควั่น มะพร้าวเจีย และมะพร้าวหัวโต โดยมียอดจัดส่งในปี 2558 อยู่ที่ 1.2 ล้านลูก

สำหรับรูปแบบที่ขายดีที่สุด คือ มะพร้าวควั่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ผลไม้กลุ่มนี้จะยิ่งมีความต้องการสูงมากเป็นพิเศษ ด้วยมะพร้าวน้ำหอมจัดเป็นหนึ่งในของไหว้ที่ได้รับความนิยมมากกว่า 3 เท่าตัว จากช่วงปกติห้างเทสโก้ โลตัส จะรับซื้อมะพร้าวน้ำหอมประมาณ 3-4 หมื่นลูก/สัปดาห์ แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 1 แสนลูก/สัปดาห์ทีเดียว

ขณะที่จุดเด่นของมะพร้าวน้ำหอมของที่สวนและเครือข่ายลูกสวนใน จ.สมุทรสงคราม และราชบุรี จะอยู่ที่รสชาติเด่น คือหวานหอม รวมถึงจากผลวิจัยรองรับผลไม้ประเภทนี้ในช่วงที่ผ่านมา ที่ระบุว่าคุณค่าโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพทำให้มีคนหันมาบริโภคมะพร้าวเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งกลุ่มตลาดมะพร้าวสด หรือตลาดน้ำมะพร้าวแปรรูปบรรจุขวด ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากทั้งตลาดในและต่างประเทศ

จากกระแสความนิยมในการบริโภคมะพร้าวมากขึ้น ทำให้บริษัทนำหลักบริหารจัดการผลผลิตเข้ามาปรับใช้กับสวนมะพร้าว อย่างเทคนิคการปลูก ระบบการวางแผนการปลูก ให้ตรงกับความต้องการ
ของตลาด ไปจนถึงการจัดเก็บผลผลิต ที่ได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าอย่างห้างเทสโก้ โลตัส ที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา ในพื้นที่การปลูกมะพร้าวน้ำหอมซึ่งร่วมกับลูกสวนราว 45 สวน หรือ
ราว 1,000 ไร่ ขณะที่บริษัทเองมีอยู่ราว 700 ไร่

สรรค์ชัย เสริมว่า ก่อนจะมาทำสวนมะพร้าวน้ำหอมแห่งนี้ ตัวเองก็เคยเป็นผู้ผลิตชาวสวนผลไม้มาตั้งแต่ 20 ปีก่อน โดยคลุกคลีกับร่องสวนตั้งแต่อายุ 15 ปี ที่ทำให้ซึมซับประสบการณ์ด้านต่างๆ ในการทำสวนมาโดยอัตโนมัติ พร้อมกับเป็นพ่อค้ามะพร้าวมาตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้เคยเห็นทั้งในช่วงที่มะพร้าวมีราคาแพงสุดอยู่ที่ลูกละ 5-6 บาท ไปจนถึงช่วงที่มะพร้าวมีราคาตกต่ำสุดลูกละ 1 บาท ซึ่งในช่วงที่เจอราคามะพร้าวตกต่ำ จะอดทนรอ และการมีสายป่านทางธุรกิจเพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาดมะพร้าวน้ำหอมได้เริ่มเป็นที่นิยมและมีความต้องการสูงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายส่งออกอยู่ที่ 60% ในมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ออสเตรเลีย สหรัฐ เป็นต้น และตลาดในประเทศราว 40% ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าว เห็นว่ามะพร้าวน้ำหอมของไทยจะยังมีอนาคตอีกมาก โดยเฉพาะความต้องการของผู้บริโภคต่างประเทศ อย่างชาวจีนที่นิยมบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้   

ส่วนราคาขายมะพร้าวน้ำหอมส่งออกจะอยู่ที่ลูกละ 16-18 บาท แต่หากเป็นราคาขายในไทยจะมีราคาตั้งแต่ 14-16 บาท/ลูก ขึ้นอยู่กับขนาด ขณะที่ต้นทุนในการปลูกมะพร้าวนั้นจะไม่สูงมากนัก โดยใช้ระยะเวลาราว 2 ปีครึ่ง-3 ปี ในการปลูกเพื่อรอเก็บ ซึ่งช่วงระหว่างนี้เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวก็สามารถหาพืชชนิดอื่นๆ มาปลูกคั่นร่องสวน หรือปล่อยเช่าก็ได้ เพื่อหารายได้อีกช่องทางหนึ่ง

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการผลิตแบ่งออกเป็น กลุ่มมะพร้าวควั่น 2 แสนลูก/วัน มะพร้าวหัวโต 4 หมื่นลูก/วัน และมะพร้าวเจีย 1.5 หมื่นลูก/วัน มีราคาขายเฉลี่ย มะพร้าวควั่น และมะพร้าวหัวโต อยู่ที่ 17 บาท/ลูก และมะพร้าวเจียราว 15-16 บาท/ลูก ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงของตลาด 

ในปี 2559 นี้ บริษัทวางเป้าหมายส่งมะพร้าวน้ำหอมในเทสโก้ฯ เพิ่มเป็น 3 ล้านลูก จากในปีก่อนอยู่ที่ 1.2 ล้านลูก