การใช้ประโยชน์ในทางภาระจำยอมร่วมกัน
ปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ทางภาระจำยอมร่วมกันเป็นจำนวนมาก เช่น หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์การค้า บ้านใกล้เรือนเคียง มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ทางร่วมกัน ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของผู้อยู่อาศัยและเจ้าของโครงการ เช่น เจ้าของโครงการซื้อโครงการต่อจากเจ้าของเดิม หลังจากนั้นเอาทางภาระจำยอมซึ่งเป็นทางเข้าออกของศูนย์การค้าไปตั้งป้อมยาม เรียกเก็บเงินค่าส่วนกลาง เรียกเก็บเงินค่าจอดรถ กำหนดเวลาในการจอดรถเป็นเวลา ใครฝ่าฝืนก็จะมีพวกนักเลงอันธพาลเข้าไปข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หรือเขียนป้ายประจานติดรถ ทุบรถ เอาน้ำมันเบรกราดรถ ถ่มน้ำลายใส่รถ ล็อกล้อรถ หรือให้เสียค่าปรับครั้งละ 2,000 บาท หากไม่ยอมเสียเงินก็ไม่ยอมให้นำรถออกจากศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังมีการนำทางภาระจำยอมไปหาประโยชน์ เช่น นำทางเท้าไปก่อสร้างเป็นร้านค้าให้บุคคลภายนอกเช่าเก็บเงินเป็นรายเดือน จนผู้อยู่อาศัยไม่มีทางเท้าต้องลงมาเดินบนถนน ถูกรถเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ หรือห้ามผู้อยู่อาศัยจอดรถบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ทั้งที่เจ้าของภาระจำยอมอนุญาตให้จอดได้ แต่พอเปลี่ยนเจ้าของโครงการก็ไม่อนุญาตให้จอด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำละเมิด และเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริ
ปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ทางภาระจำยอมร่วมกันเป็นจำนวนมาก เช่น หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์การค้า บ้านใกล้เรือนเคียง มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ทางร่วมกัน ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของผู้อยู่อาศัยและเจ้าของโครงการ เช่น เจ้าของโครงการซื้อโครงการต่อจากเจ้าของเดิม หลังจากนั้นเอาทางภาระจำยอมซึ่งเป็นทางเข้าออกของศูนย์การค้าไปตั้งป้อมยาม เรียกเก็บเงินค่าส่วนกลาง เรียกเก็บเงินค่าจอดรถ กำหนดเวลาในการจอดรถเป็นเวลา ใครฝ่าฝืนก็จะมีพวกนักเลงอันธพาลเข้าไปข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หรือเขียนป้ายประจานติดรถ ทุบรถ เอาน้ำมันเบรกราดรถ ถ่มน้ำลายใส่รถ ล็อกล้อรถ หรือให้เสียค่าปรับครั้งละ 2,000 บาท หากไม่ยอมเสียเงินก็ไม่ยอมให้นำรถออกจากศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังมีการนำทางภาระจำยอมไปหาประโยชน์ เช่น นำทางเท้าไปก่อสร้างเป็นร้านค้าให้บุคคลภายนอกเช่าเก็บเงินเป็นรายเดือน จนผู้อยู่อาศัยไม่มีทางเท้าต้องลงมาเดินบนถนน ถูกรถเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ หรือห้ามผู้อยู่อาศัยจอดรถบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ทั้งที่เจ้าของภาระจำยอมอนุญาต
ให้จอดได้ แต่พอเปลี่ยนเจ้าของโครงการก็ไม่อนุญาตให้จอด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำละเมิด และเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ของเจ้าของโครงการ ในทางกลับกันในส่วนของผู้อยู่อาศัยที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวก็มีเหมือนกัน เช่น นำเหล็กมากั้นบริเวณหน้าอาคารของตนเองไม่ให้คนอื่นจอดรถ หรือก่อสร้าง หรือวางสินค้า บนถนนที่เป็นทางภาระจำยอม หรือนำรถเข้ามาวิ่ง หรือมาจอด ในทางภาระจำยอมเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้อยู่อาศัยรายอื่นไม่สามารถจะสัญจรหรือจอดได้ อันทำให้ผู้อยู่อาศัยอื่นเสื่อมความสะดวกในการใช้ทางภาระจำยอม กรณีดังกล่าวผู้อยู่อาศัยก็ไม่สามารถจะกระทำการได้ เพราะการใช้ประโยชน์จากภาระจำยอมต้องใช้พอสมควร ไม่ใช่ใช้ประโยชน์แบบไม่มีขีดจำกัดจนกระทบสิทธิผู้อื่น ตัวอย่างคำพิพากษาของศาลฎีกาที่เกี่ยวกับคดีภาระจำยอมมีดังต่อไปนี้
ไม่มีสิทธิปิดกั้นทางภาระจำยอมให้แคบลง
1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2533
ที่ดินของโจทก์และจำเลยมีเขตติดต่อกันโดยที่ดินโจทก์อยู่ทางทิศเหนือของที่ดินจำเลย โจทก์ใช้ทางพิพาทเข้าออกจากที่ดินโจทก์ผ่านที่ดินจำเลยนานเกิน 10 ปี ทางพิพาทจึงเป็นทางภาระจำยอมโจทก์ย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาททั้งเวลากลางวันและกลางคืน จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นให้แคบลงกว่าเดิมและปิดในเวลากลางคืน เพราะเป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกนำเสามาปักทำให้ทางแคบลง และทำทางลาดชันเข้าออกต้องขออนุญาต เป็นการทำให้เสื่อมความสะดวก
2.พิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2546
จำเลยไม่มีสิทธิที่จะขัดขวางมิให้โจทก์ใช้ทางภาระจำยอมหรือทำให้ทางภาระจำยอมลดน้อยลง หรือทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้ทางภาระจำยอมนั้น การที่จำเลยนำเสาไม้มาปักย่อมทำให้ทางแคบลง การเทปูนซีเมนต์เพื่อทำให้ทางลาดชันย่อมทำให้การสัญจรผ่านไปมาไม่สะดวก การทำประตูปิดกั้นรถยนต์ที่จะผ่านเข้าออก แม้จำเลยจะอ้างว่าเพื่อตรวจสอบบุคคลที่ไม่มีสิทธิใช้ทางภาระจำยอมมาใช้ทางดังกล่าวก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับบุคคลภายนอก แต่การกระทำของจำเลยเช่นนั้นเห็นได้ชัดว่าโจทก์จะเข้าออกทางภาระจำยอมไม่สะดวก เพราะโจทก์จะต้องคอยอนุญาตจำเลยเปิดประตูไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทางภาระจำยอมได้เต็มตามสิทธิ กรณีนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1390
ปลูกสร้างหรือก่อสร้างแผงร้านค้าลงในทางภาระจำยอม
3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6226/2552
การที่จำเลยทั้งสองทำการปลูกสร้างหรือก่อสร้างแผงร้านค้าลงในที่ดินย่อมเป็นการกีดขวางการใช้ประโยชน์ในทางภาระจำยอมดังกล่าวอันจะเป็นเหตุทำให้กระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์และผู้ซื้อที่ดินและบ้านจัดสรรซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ในโครงการของจำเลยทั้งสอง การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก
สร้างเพิงเก็บสินค้าในทางภาระจำยอม
4.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2554
ที่ดินพิพาทเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาทได้ แต่การที่โจทก์ก่อสร้างเพิงเก็บสินค้าในที่ดินพิพาทเพื่อประโยชน์ของโจทก์แต่เพียงผู้เดียวเป็นการทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ที่ดินพิพาทอันเป็นภารยทรัพย์ ทำให้เจ้าของภารยทรัพย์เสียหาย แม้โจทก์จะก่อสร้างเพิงเก็บสินค้าดังกล่าวมาก่อนที่ดินพิพาทจะตกเป็นของจำเลย แต่เมื่อจำเลยบอกกล่าวให้โจทก์รื้อถอนเพิงเก็บสินค้าแล้วโจทก์ไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นการทำละเมิดแก่จำเลย
สร้างตึกค่อมทางพิพาท รถยังเข้าออกได้สะดวก
5.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2525
แม้สร้างตึกคร่อมทางภาระจำยอมพิพาท แต่ยังเดินผ่านและรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่แล่นเข้าออกได้สะดวก ไม่ทำให้เสื่อมสภาพต่อการใช้ประโยชน์แห่งทางภาระจำยอมพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 เป็นบทบัญญัติที่กล่าวถึงลักษณะแห่งภาระจำยอมมิใช่บทบัญญัติห้ามเจ้าของภารยทรัพย์สร้างอาคารตึกคร่อมทางภาระจำยอม
เอาทางภาระจำยอมออกให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าขายของ
6.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2536
การที่จำเลยนำที่ดินบริเวณที่ตกเป็นภาระจำยอมแก่โจทก์ออกให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าขายของในลักษณะหาบเร่แผงลอยไม่ถาวร ไม่เป็นการเสื่อมประโยชน์แก่ภาระจำยอมของโจทก์แต่อย่างใด
การใช้ประโยชน์ทางเข้าออกร่วมกันนั้นอยู่ที่สำนึกของผู้อยู่อาศัยและเจ้าของโครงการเป็นหลัก ตัวบทกฎหมายเป็นเรื่องรอง ถ้ามีจิตสำนึกก็ไม่ต้องนำตัวบทกฎหมายมาบังคับใช้นะครับ


