posttoday

สยามพรีเมียร์บุกนอก คุมเชิงกฎหมาย3ชาติ

08 ธันวาคม 2558

เมื่อจะออกไปลงทุนในอาเซียน ความท้าทายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องเผชิญเหมือนกันไม่ว่าจะไปบุกประเทศใด

โดย...ตะวัน หวังเจริญวงศ์

เมื่อจะออกไปลงทุนในอาเซียน ความท้าทายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องเผชิญเหมือนกันไม่ว่าจะไปบุกประเทศใด คือ ความท้าทายด้านกฎหมาย ยิ่งไม่มีพันธมิตรท้องถิ่นที่ไว้ใจได้ นักธุรกิจ นักลงทุน ไม่ว่ารายใหญ่ รายกลาง หรือรายย่อย ต่างต้องการ “ผู้ช่วย” มาแก้ปัญหานี้ทั้งสิ้น

นี่จึงกลายเป็นโอกาสของที่ปรึกษากฎหมายหรือลอว์เฟิร์มอย่างสยามพรีเมียร์ ให้สามารถไปปักธงธุรกิจในอาเซียนมาแล้วถึง 2 ประเทศ และเตรียมขยายสู่ประเทศที่ 3 ในเร็วๆ นี้

นิธิ สุ่มสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักกฎหมายสากล สยามพรีเมียร์ และกรรมการผู้จัดการ เมียนมาพรีเมียร์ เล่าว่า ตั้งแต่เมื่อปี 2551 ที่แผนงานรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี บลูพรินต์) เป็นรูปเป็นร่าง บริษัทก็เริ่มมีแนวคิดในการเปิดตลาดในอาเซียน และค่อยๆ เริ่มศึกษาเกี่ยวกับโอกาสการเปิดตลาดในอาเซียน แต่ก็ยังไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมากนัก เมื่อมีลูกความมาขอคำปรึกษาด้านกฎหมายในอาเซียน จึงทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหาสำนักกฎหมายที่รู้จักในแต่ละประเทศให้

แต่เมื่อมาถึงปี 2554 บริษัทเริ่มตระหนักว่าจะเป็นเพียงผู้ประสานงานเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกแล้ว สำนักกฎหมายท้องถิ่นในบางประเทศยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทข้ามชาติ ยังทำงานไม่ได้มาตรฐานสากล ขณะที่เรื่องกฎหมายต้องการความแม่นยำแน่นอน

ในปีดังกล่าว บริษัทจึงได้ไปจัดตั้งบริษัท ลาวพรีเมียร์ ขึ้นในลาว และตามด้วยการไปดูลู่ทางในเมียนมา และเริ่มก่อตั้งบริษัท เมียนมาพรีเมียร์ ขึ้นมาในช่วงต้นปี 2556

การเข้าไปเปิดสำนักงานในทั้งสองประเทศ เป็นการไปตามความต้องการของลูกความที่เริ่มขยายการลงทุนไปในทั้งสองประเทศมากขึ้น ก่อนจะเข้าไปดำเนินการ บริษัทจึงเป็นการเตรียมความพร้อมกฎหมายลาว กฎหมายเมียนมา เพื่อให้บริการลูกความได้อย่างเต็มศักยภาพ

นิธิ เล่าว่า ความท้าทายอย่างหนึ่งของการเข้าไปปักธงในเมียนมา คือ การหาพนักงานที่มีคุณสมบัติและสื่อสารได้ตามต้องการ แม้อาจจะเคยได้ยินกันว่าชาวเมียนมาจำนวนหนึ่งสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่จากประสบการณ์การสัมภาษณ์ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทของเมียนมา กลับพบว่า เขากลับสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ คนที่สื่อสารได้คล่องส่วนใหญ่เป็นคนอายุ 70-80 ปี

ความท้าทายอีกประการหนึ่ง คือ การแข่งขันในพื้นที่ ปัจจุบันการแข่งขันของสำนักกฎหมายในเมียนมาสูงมาก มีทั้งสำนักกฎหมายสัญชาติไทย สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร เข้ามาแข่งขันกันเพียบตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจในโอกาสของเครือสยามพรีเมียร์ เนื่องจากมีจุดขายคือการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานการทำงานที่ดีให้แก่ลูกความ เป็นสำนักกฎหมายสัญชาติไทย 100% โครงสร้างค่าบริการเหมาะสม ขณะที่สำนักกฎหมายต่างชาติจะมีค่าธรรมเนียมการบริการสูงมาก

เป้าหมายของบริษัทในช่วงหลังจากนี้ คือ การสร้างเครือข่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มจำนวนบุคลากรทั้งไทย เมียนมา ลาว สร้างการเรียนรู้ในประเภทธุรกิจต่างๆ และไม่เกินเดือน พ.ค. 2559 มีแผนจะไปเปิดสำนักกฎหมายในกัมพูชา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากเป็นไปได้ ก็อยากจะดำเนินธุรกิจให้ทั่วทั้งอาเซียน

ปัจจุบัน สัดส่วนลูกความในเมียนมาแบ่งเป็นลูกความไทย 75% ที่เหลือเป็นลูกความต่างชาติและลูกความท้องถิ่นเมียนมา

ต่อสกุล คุ้นวงศ์ ทนายความหุ้นส่วน สยามพรีเมียร์ และกรรมการ เมียนมาพรีเมียร์ เสริมว่า นักกฎหมายเมียนมาได้รับใบอนุญาตจากสถาบันวิชาชีพ ถนัดคดีความในศาล กลุ่มที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนธุรกิจมีน้อยมาก การจะคัดเลือกคนเข้าทำงานจึงต้องดูให้ดีและครอบคลุม

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทเชี่ยวชาญทั้งกฎหมายการลงทุนในเมียนมาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในลาว เนื่องจากได้รับคัดเลือกจากคณะกฤษฎีกาของไทยให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว และมีทีมงานทั้งชาวไทยและท้องถิ่นพร้อมให้บริการในพื้นที่แล้ว เพื่อช่วยเหลือด้านการจัดตั้งธุรกิจ การร่วมทุน การทำธุรกิจขนาดใหญ่ การขออนุญาต การขอสัมปทาน

ข่าวล่าสุด

เปิดภาพคุมตัว "น.ส.ลัก" สอบเข้ม ปมบังคับลูกสาววัย 12 ค้ากามญี่ปุ่น