สยามบานาน่า ปรับตำแหน่งแบรนด์โกอินเตอร์

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

ชื่อของ “สยามบานาน่า” (SiamBanana) ขนมหวานเบเกอรี่สอดไส้กล้วย ที่ถูกพูดถึงอย่างหนักจนเป็นที่รู้จักในตลาด โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) จากกระแส “ดราม่า มาร์เก็ตติ้ง” ระหว่างร้านค้าปลีกรายใหญ่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งจากวิกฤตในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้สยามบานาน่าหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมปรับตำแหน่งทางการตลาดใหม่

พลอยไพลิน ศรีเฉลิม เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์สยามบานาน่า ย้อนที่มาธุรกิจคร่าวๆ ว่าเริ่มมาจากความต้องการที่จะมีกิจการเป็นของตัวเองและลองทำธุรกิจอื่นมาก่อน กระทั่งมาลงตัวกับการทำขนมอบเบเกอรี่ ที่ใช้ความถนัดบวกกับความที่เป็นคนชอบรับประทานขนมโตเกียวบานาน่ามาก และเห็นโอกาสทางการตลาดในช่วงนั้น ที่ยังไม่เห็นมีใครผลิตสินค้ารูปแบบนี้ออกมาทำตลาดในไทย

โดยลองผิดลองถูกสูตรขนมมาได้ระยะหนึ่งจึงลงตัวและเริ่มทดลองทำตลาดเล็กๆ ก่อน ซึ่งในช่วงแรกใช้วิธีว่าจ้างผลิตสินค้าด้วยยังไม่มีโรงงานของตัวเอง แต่เมื่อมีจังหวะที่สินค้ามีแผนเตรียมเข้าช่องทางขายปลีก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจด้านกำลังผลิต จากสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก แต่สุดท้ายสินค้าของเธอก็ไม่ได้เข้าไปวางขายในช่องจำหน่ายดังกล่าว สวนทางกับปริมาณสินค้าจำนวนมากที่รอทำตลาด ทำให้เธอต้องเร่งหาช่องทางขายสินค้าใหม่มารองรับ

“จากนั้นเราได้หันมาทบทวนตำแหน่งทางการตลาดใหม่ให้กับสินค้า คือ เป็นสินค้าของฝากระดับพรีเมียม จับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งรวมถึงยังได้รับโอกาสจากห้างค้าปลีกรายใหญ่หลายแห่ง อย่างกลุ่มเดอะมอลล์และซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ ให้นำสินค้าเข้าไปวางขายด้วย นอกเหนือจากการทำตลาดออนไลน์ผ่านทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม” พลอยไพลิน กล่าว

รวมถึงโอกาสที่ “สยามบานาน่า” ยังได้มีโอกาสเหินฟ้าขึ้นไปให้บริการแก่ผู้โดยสารบนสายการบินแอร์เอเชีย เพื่อให้ผู้โดยสารบนเครื่องได้เปิดประสบการณ์รับรสชาติเบเกอรี่ฝีมือคนไทยอีกด้วย พร้อมอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการยืดอายุสินค้าให้สามารถวางขายบนชั้นจำหน่าย (เชลฟ์ ไลฟ์) ได้นานขึ้น ซึ่งหากแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้สินค้าสามารถเข้าไปวางจำหน่ายในฐานะผลิตภัณฑ์ของฝากได้อย่างเต็มรูปแบบภายในพื้นที่ค้าปลีกของคิง เพาเวอร์ ได้ในอนาคต

ล่าสุด เบเกอรี่แบรนด์สยามบานาน่ายังได้รับสิทธิเข้าไปวางขายในร้านดอยช้าง ที่เปิดให้บริการภายในสนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย ทั้งหาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ คาดเห็นความชัดเจนได้ทั้งหมดภายในปีนี้

พร้อมวางแผนลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท นำเครื่องจักรใหม่มาใช้ขยายกำลังการผลิตสินค้า คาดจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 เท่าตัว เพื่อขยายการทำตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่เตรียมนำสินค้าส่งออกไปทำตลาดในจีนปีหน้า พร้อมทำสินค้ารสชาติใหม่ที่ใช้วัตถุดิบผลไม้ไทย อย่างรสทุเรียนที่คนจีนชื่นชอบและรสสับปะรดที่ชาวตะวันตกแถบยุโปนิยม เป็นต้น ที่จะออกมาทำตลาดในเดือน ธ.ค.ปีนี้

ปัจจุบันสยามบานาน่าทำตลาดสินค้า 3 รสชาติ คือ กล้วยหอม กาแฟ และช็อกโกแลต วางขาย 2 ขนาด คือ กล่องบรรจุ 4 ชิ้น ราคา 120 บาท และกล่องบรรจุ 8 ชิ้น ราคา 220 บาท

จากแนวทางธุรกิจดังกล่าว คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้นราว 30% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนและจากแผนการขยายธุรกิจต่างๆ ที่ปูทางไว้ในปีนี้ คาดในปีหน้าธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40%

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจในภาพรวมจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าคนก็ยังจะรับประทานขนมอยู่ โดยเฉพาะขนมไทยที่มีเอกลักษณ์และรสชาติจากวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างผลไม้ไทยต่างๆ โดยเฉพาะกล้วยหอมทองของไทยที่มีกลิ่นและรสชาติโดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่น

พร้อมทิ้งท้ายหลักการทำธุรกิจ คือ สร้างแรงบันดาลใจมาเป็นแรงขับ โดยพยายามสร้างฝันให้ใหญ่ที่สุด ตั้งเป้าหมายให้สูงที่สุด จากนั้นมาวางเส้นทางการทำงาน พร้อมเดินให้ตรงไปตามแผนงานสนับสนุนต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างที่เข้ามาเป็นโอกาสและประสบการณ์ใหม่เสมอ