'ประกิต'ลั่นไม่มีเทกโอเวอร์

“ประกิต” กอดหุ้นแน่น 50% ไม่มีเทกโอเวอร์ เชื่อข่าวขายที่ดินทำโรงพยาบาลจุดพลุเก็งกำไร

นายประกิต อภิสารธนรักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ (PRAKIT) เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีข่าวขายกิจการ หรือถูกเทกโอเวอร์เด็ดขาด  เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ น่าจะมาจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุน ซึ่งบริษัทได้ตรวจสอบว่าใครเข้ามาเล่นหุ้น เพราะกลัวจะถูกเทกโอเวอร์  โดยหุ้นที่นายประกิตถืออยู่ประมาณ 50% ไม่มีการขายออกมา ส่วนที่รายงานแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นการขายของผู้บริหารและพนักงานที่ขายออกช่วงราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง

“ราคาหุ้นขึ้นมา ผู้บริหาร รวมทั้งภรรยาผมถือเป็นโอกาส ก็ขายออกบ้างและซื้อกลับ เป็นเรื่องปกติ ส่วนของผมที่ถืออยู่ 50% ถือไว้นิ่งเลย ขายไม่ได้ ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนเพิ่มสูงขึ้นน่าจะโยนไปมา อาศัยข่าวดีช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีนักลงทุนเข้ามาพบผู้บริหารบริษัท สอบถามโครงการลงทุนของบริษัทที่มีโครงการลงทุนดี และการขายที่ดินไปทำโรงพยาบาล แต่เวลาดังกล่าวราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวขึ้น แต่มาขึ้นหลังจาก 1 เดือนผ่านไป ซึ่งการขายที่ดิน มีกำไรจากการขายกว่า 100 ล้านบาท รับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ เชื่อว่าเป็นสาเหตุให้มีการเก็งกำไรข่าวผลประกอบการไตรมาส 3” นายประกิต กล่าว

ประธานกรรมการ กล่าวถึงหุ้น PRAKIT ว่า เป็นหุ้นไม่หวือหวา พื้นฐานดี มั่นคง ปันผลติดอันดับท็อปเทนของตลาด ไม่มีหนี้สิน เงินลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลใช้เงินกำไรสะสมของบริษัท  การที่บริษัทและนายประกิตไม่มีหนี้สิน ไม่ต้องไปขายกิจการให้ใคร

สำหรับการลงทุนโรงพยาบาลเป็นความตั้งใจของนายประกิต เป็นธุรกิจสุดท้ายที่ต้องการลงทุน นอกเหนือจากลงทุนที่ดินและรีสอร์ทแล้ว โดยนำกลุ่มเพื่อน เช่น นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ซึ่งบริษัท PRAKIT ถือหุ้น 35% และสหยูเนี่ยน 47% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 847.25 ล้านบาท ซึ่งโรงพยาบาลมีแผนเพิ่มทุนไปถึง 2,000 ล้านบาท และดึงนายแพทย์มาเข้าร่วมถือหุ้นด้วย

โรงพยาบาลดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัท การแพทย์ สุขุมวิท 62 ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ เริ่มก่อสร้างปี 2559 ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี 6 เดือน เป็นโรงพยาบาลเอกชน ขนาด 130 เตียง บนเนื้อที่ 4 ไร่ครึ่ง ติดถนนสุขุมวิท 62

“ธุรกิจโรงพยาบาลที่ผมลงทุน เป็นความตั้งใจของผม ส่วน ศ.นพ.อนุชา ลูกชาย นักวิชาการแพทย์ จะเข้ามาช่วยดูสัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น ไม่ได้มานั่งบริหาร” นายประกิต กล่าว