กองทุนรวมกับความเสี่ยง...รู้ไว้ได้ประโยชน์

...จารุพรรณ อินทรรุ่ง

ต่อเนื่องจากคราวที่แล้วที่ดิฉันได้แนะนำให้รู้จักกับกองทุนรวมกลุ่มความเสี่ยงต่ำ ซึ่งก็คือกองทุนรวมที่เลือกลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ ในคราวนี้เรามาว่ากันต่อกับเรื่องราวของกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงในระดับที่สูงขึ้นว่าจะมีอะไร และมีความเสี่ยงแบบใดกันบ้างค่ะ

nกองทุนรวมความเสี่ยงปานกลาง

สำหรับกองทุนรวมที่อาจให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าประเภทแรก แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วยก็คือ กองทุนรวมผสม จะมีการลงทุนแบบผสมผสานทั้งในตราสารหนี้และตราสารทุน เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น เป็นต้น โดย บลจ. อาจจะกำหนดสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุนได้ทั้งแบบที่กำหนดเพดานการลงทุนในตราสารทุนไว้ไม่เกินร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม หรือไม่กำหนดเพดานการลงทุนในตราสารทุน แต่ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลงทุนในตราสารทุนหรือตราสารหนี้ในสัดส่วนเท่าใดตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะนั้นค่ะ ซึ่งเรียกว่าเป็น กองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น ที่ในบางขณะอาจลงทุนในตราสารทุนทั้งกองเลยก็ได้ค่ะ

อัตราผลตอบแทนของกองทุนรวมผสมจะมากน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน บวกกับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นว่าตราสารแบบใดจะให้ผลตอบแทนมากน้อยเพียงใด แต่ส่วนมากแล้วจะอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ต่ำเหมือนการลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว และไม่สูงเท่ากับการลงทุนในตราสารทุนเพียงอย่างเดียวค่ะ

และเมื่อลงทุนในตราสารได้หลายประเภท กองทุนรวมผสมจึงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอยู่หลายเรื่อง เช่น ความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้ราคาตราสารหนี้ที่กองทุนรวมลงทุนผันผวนตามไปด้วย ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ ความเสี่ยงจากภาวการณ์ขึ้นลงของตลาดทำให้ราคาตราสารหนี้และตราสารทุนที่กองทุนรวมลงทุนอยู่เปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องหากกองทุนรวมไม่สามารถบริหารการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ได้ในจังหวะเวลาและราคาที่ต้องการ เป็นต้น

โดยหากเป็นกองทุนรวมที่มีสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุนใกล้เคียงกัน ระดับความเสี่ยงอาจจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่หากนโยบายการลงทุนเอนเอียงมาทางตราสารทุนมากๆ กองทุนรวมนี้อาจจะกลายเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงได้ค่ะ

ผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนและความเสี่ยงในระดับปานกลาง ไม่สูงเหมือนการลงทุนในตราสารทุนเพียงอย่างเดียว ก็อาจเลือกกองทุนรวมผสมที่มีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และทุนในสัดส่วนใกล้เคียงกันได้ค่ะ

แต่อย่าลืมนะคะว่า กองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นอาจมีนโยบายที่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่สูง ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย ผู้ลงทุนก็ต้องอ่านนโยบายการลงทุนกองทุนรวมแต่ละกองให้ถี่ถ้วน เพื่อให้เข้าใจสัดส่วนในการลงทุน ความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับของกองทุนรวมนั้น จากหนังสือชี้ชวนหรือรายงานประจำปีของกองทุน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขายก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ

nกองทุนรวมความเสี่ยงสูง

กองทุนรวมประเภทถัดมาจัดเป็น กองทุนรวมประเภทที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งได้แก่ กองทุนรวมตราสารทุน เพราะนำเงินส่วนใหญ่ ตั้งแต่ร้อยละ 65 ขึ้นไป ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมโดยเฉลี่ยไปลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) และหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้น ไปจนถึงตราสารอื่นๆ ที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Notes) ได้อีกด้วยค่ะ

กองทุนรวมในกลุ่มนี้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนรวมความเสี่ยงปานกลาง

ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้นด้วย โดยความเสี่ยงที่สำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของราคาหลักทรัพย์ต่างๆ ที่กองทุนรวมไปลงทุนอันเป็นผลมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง และความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมไปลงทุนในหุ้นนั้นค่ะ

ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนของกองทุนรวมก็ยังส่งผลต่อระดับความเสี่ยงด้วย เช่น หากเป็นกองทุนรวมที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีอ้างอิง (นโยบายการลงทุนแบบ Active) จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมที่ต้องการเพียงสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง (นโยบายการลงทุนแบบ Passive) เช่น กองทุนรวมดัชนีราคาหุ้นหรือกองทุนรวม ETF หุ้นค่ะ หรือหากเป็นกองทุนรวมที่เลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจหลักประเภทเดียวกัน (Sector Fund) เช่น ธุรกิจพลังงานนี้ก็จะมีความเสี่ยงในระดับที่สูงกว่ากองทุนรวมที่กระจายการลงทุนในหุ้นหลายๆ กลุ่ม เนื่องจากมีนโยบายการลงทุนที่กระจุกตัว ไม่กระจายความเสี่ยง

นอกจากนี้ ในกรณีที่กองทุนรวมไปเลือกลงทุนในตราสารที่ซับซ้อนตามดิฉันกล่าวมาข้างต้น เช่น ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Notes) ที่ไม่คุ้มครองเงินต้น ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมจะเพิ่มเป็นระดับสูงมากทันทีค่ะ ผู้ลงทุนจึงควรอ่านนโยบายลงทุนและศึกษาสินค้าที่กองทุนรวมไปลงทุนให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ

ดังนั้น ผู้ที่เหมาะกับการลงทุนในกองทุนรวมในกลุ่มนี้ จึงต้องสามารถรับความเสี่ยงได้สูง เข้าใจภาวะธรรมชาติของตลาดหุ้นที่มีความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นมีการขึ้นลงค่อนข้างมาก และมองการลงทุนเป็นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้นค่ะ

ในคราวหน้ายังมีกองทุนรวมที่น่าสนใจประเภทอื่นๆ ที่มีลักษณะพิเศษ โดยมีความเสี่ยงที่หลากหลายเพิ่มขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ