สลากออมสิน-สลากธกส.ผลตอบแทนตามดวง?

แต่ไม่ว่าจะมีเงินน้อยเงินมากสำหรับ “คนชอบเสี่ยงดวง” แล้ว การเก็บออมเพื่อซื้อ “สลากออมสิน” หรือ “สลาก ธ.ก.ส.” ก็ดีกว่าไปเสียเงินซื้อ “สลากกินแบ่งรัฐบาล”

โดย...สวลี ตันกุลรัตน์

ถึงจะเคยได้ยินคำว่า “สลากออมสิน” มาตั้งแต่นับเลขได้ไม่ถึงหลักร้อย เพราะพ่อกับแม่บอกว่า ซื้อสลากออมสินเก็บไว้ให้เป็นของขวัญลูกๆ แต่ขอสารภาพตามตรงว่า นับตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ก็เพิ่งจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับสลากออมสินแบบจริงๆ จังๆ ก็คราวนี้ล่ะ

ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เปลืองพื้นที่บอกไปตรงๆ เลยว่า สาเหตุที่ทำให้ตาลุกวาวกับสินค้าประเภท “สลาก” ก็เพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้นทั้งสลากออมสินและสลาก ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ขนสารพัดรางวัลใหญ่มายั่วกิเลส แล้วแบบนี้ “คนชอบเสี่ยงโชค” จะปล่อยให้ผ่านเลยไปได้อย่างไร

รางวัลเป็นล้านก็อยากได้ คอนโดมิเนียม ก็อยากมี ทองคำก็น่าสนใจ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ไม่ใช่มหาเศรษฐีมีเงินถุงเงินถังมาจากไหน ก็เลยคิดไม่ตกว่าจะเลือกซื้อสลากออมสินหรือสลาก ธ.ก.ส. ดี เพราะนั่นก็ดี นี่ก็น่าสนใจ เพราะฉะนั้นเราลองมาทำความรู้จักและเปรียบเทียบโอกาสรวยก่อนจะตัดสินใจหอบเงินไปซื้อสลาก

สลากออมสิน

น่าจะคุ้นเคยกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า เพราะธนาคารออมสินเริ่มออกสลากออมสินมาตั้งแต่ปี 2485 โน่นแน่ะ จนกระทั่งรุ่นล่าสุดที่กำลังเปิดขายอยู่ คือ สลากออมสินพิเศษ อายุ 3 ปี งวดที่ 42

และธนาคารออมสินก็ใจป้ำกับสลากออมสินรุ่นนี้เหลือเกิน เพราะนอกจากรางวัลที่ 1 ที่ทำให้คนซื้อสลากได้ฝันหวานกันถึง 10 ล้านบาทแล้ว ยังแถมรางวัลพิเศษ (สำหรับสลากออมสินพิเศษ) อีก 1 ล้านบาท และคนที่ถูกรางวัลยัง “เลือกได้ตามใจ” สามารถเลือกได้ว่า จะรับเป็นคอนโดมิเนียม ทองคำ หรือรถยนต์ดัดแปลงเพื่อการพาณิชย์พร้อมทองคำ

ภาพประกอบข่าว

แต่คนที่กำลังจะไปซื้อ อาจจะเสียเปรียบคนที่ซื้อมาก่อนหน้านี้สัก 1 งวด เพราะรางวัลพิเศษนี้มีให้ลุ้นกันแค่ 9 งวด โดยงวดแรกออกรางวัลไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. และมีผู้โชคดีได้รับรางวัลไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีก 8 งวดให้ได้ลุ้น

นอกจากรางวัลพิเศษอีก 8 งวดที่เหลือนี้แล้ว สลากออมสินรุ่นนี้ยังมีรางวัลปกติทุกวันที่ 16 ของเดือนตลอด 36 เดือน เท่ากับอายุของสลากออมสิน เพราะคนที่ซื้อสลากออมสินพิเศษ งวดที่ 41 นี้ ต้องฝากไว้ 36 เดือน

แต่ที่ทำให้สลากออมสินรุ่นนี้ได้เปรียบกว่าสลากออมสินที่ผ่านมาๆ เพราะสามารถไถ่ถอนก่อนกำหนดได้โดยไม่ถูกหักเงินต้น เพียงแต่ต้องฝากไว้อย่างน้อยที่สุด 3 เดือน

เพราะเงื่อนไขในการไถ่ถอนก่อนครบ 3 ปี กำหนดไว้ว่า หากฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ถึง 1 ปี จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ที่หน่วยละ 50 บาท จนกระทั่งฝากครบ 3 ปี จะได้รับคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 51.875 บาท

ถ้าอยากซื้อสลากออมสินต้องมีเงินติดมือไปอย่างน้อย 550 บาท เพราะก่อนจะซื้อสลากออมสินได้ต้องเปิดบัญชีเงินฝากแบบเผื่อเรียกกับธนาคาร 500 บาท ซึ่งธนาคารจะนำเงินรางวัลไปเก็บไว้ให้เราในบัญชีนี้ หลังจากเปิดบัญชีก็ซื้อสลากออมสินได้เลย แค่ 1 หน่วย หรือ 50 บาท เขาก็ขาย

แต่ถ้าอยากจะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว (ซึ่งเป็นรางวัลที่ต่ำที่สุด) ทุกงวดต้องซื้ออย่างน้อย 5 แสนบาท หรือ 1 หมื่นหน่วย เพื่อให้ได้เลขสลากที่แตกต่างกันตั้งแต่ 0001 ไปจนถึง 1000 เพราะเวลาไปซื้อเราไม่สามารถเลือกเลขรางวัลได้จึงต้องซื้อในคราวเดียว เพื่อให้ได้เลขสลากที่เรียงกันไปจนครบ

สำหรับรางวัลเลขท้าย 4 ตัว ที่จะมีการหมุนรางวัล 2 ครั้ง หรือออกมางวดละ 2 รางวัล ผู้ที่มีเลขท้าย 4 ตัวตามสลากตรงกับเลขรางวัล จะได้รับเงินรางวัล รางวัลละ 150 บาท (ยิ่งพยายามอธิบายยิ่งมึน แต่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้คนไทยเข้าใจง่าย)

เพราะฉะนั้น คนที่ซื้อสลากเป็นเงิน 5 แสนบาท และได้เลขสลากเรียงกันจะถูกรางวัลทุกงวดรวมเป็นเงินงวดละ 300 บาท จนครบ 36 งวด รวมเป็นเงิน 10,800 บาท (ถ้าบังเอิญดวงอับไม่ถูกรางวัลใหญ่กับเขาสักรางวัล) และเมื่อฝากจนครบ 3 ปี ที่จะได้ดอกเบี้ยหน่วยละ 1.875 บาท เท่ากับดอกเบี้ยรวม 18,750 บาท

ดังนั้น ผลตอบแทนที่จะได้จากการซื้อสลากออมสินเท่ากับ 29,550 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทน 1.95% ต่อปี สำหรับการลงทุนที่ใช้เงินทุน 5 แสนบาท

แต่ถ้าคนที่ซื้อสลากออมสินไม่ถึง 5 แสนบาท หรือได้เลขท้ายสลาก 4 หลักเรียง ไม่ครบ ก็อาจจะได้ผลตอบแทนต่ำกว่านี้ แต่ยังมีสิทธิลุ้นรางวัลเหมือนกันทุกคน

สลาก ธ.ก.ส.

หันมาทางฝั่งของสลาก ธ.ก.ส. ที่ “คนเมือง” อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยมากเท่ากับสลากออมสิน แต่พอเจอคำโฆษณาของ “บัตรเพิ่มทรัพย์ ชุดที่ 5” ที่บอกว่า ฝากเพียง 3 ปี แต่มีดีถึง 4 ดี ก็ต้องหันมามองกันบ้างแล้ว เพราะ ธ.ก.ส. ก็ใจป้ำพอๆ กับธนาคารออมสิน แม้ว่ารางวัลจะยังไม่ยั่วน้ำลายได้เท่ากับสลากออมสิน

รางวัลใหญ่ที่สุดของบัตรเพิ่มทรัพย์ ชุดที่ 5 มีแค่ 1 รางวัล และเงินรางวัลแค่ 2 ล้านบาท โดยคนที่จะถูกรางวัลจะต้องถูกทั้งเลขสลาก (ที่มีอยู่ 7 หลัก) และอักษรประจำหมวด ซึ่งในชุดที่ 5 นี้ จะมีเริ่มตั้งแต่หมวด AU 0000000 ไปจนถึง AY 0000000 แต่ก็ยังมีโอกาสได้รางวัลที่ 1 แบบต่างหมวดอีก 4 รางวัล รางวัลละ 1 แสนบาท

การลุ้นโชคของชุดที่ 5 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.นี้ และออกรางวัลเรื่อยไปจนครบ 36 เดือน และงวดสุดท้ายวันที่ 16 มิ.ย. 2556 แต่สำหรับคนที่ซื้อสลากหลังจากวันที่ 2 ก.ค. ก็อาจจะเสียเปรียบหน่อย เพราะอดลุ้นรางวัลงวดแรก ต้องรอไปลุ้นงวดต่อไป

ถ้ามองเผินๆ ดูเหมือนว่า สลาก ธ.ก.ส. จะแพงกว่าสลากออมสิน เพราะมีเงิน 50 บาท ก็สามารถซื้อสลากออมสินได้แล้ว 1 หน่วย แต่ถ้าจะซื้อสลาก ธ.ก.ส. ต้องใช้เงิน 100 บาท สำหรับ 1 หน่วย

แต่ถ้ามองไปที่รางวัลจะเห็นว่าโอกาสที่จะถูกรางวัลทุกงวดใช้เงินน้อยกว่าสลากออมสิน เพราะรางวัลที่เล็กที่สุดของสลาก ธ.ก.ส. เป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ทำให้คนที่อยากถูกรางวัลทุกงวด ต้องซื้อสลากให้ได้เลขสลากเรียงกัน 1,000 หน่วย ตั้งแต่ 001 จนถึง 100 หรือคิดเป็นเงิน 1 แสนบาท

เมื่อมีสลากเลขเรียงกันครบทั้ง 1,000 หน่วย เราจะถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 50 บาท หมุน 2 ครั้ง รวมเป็นเงินรางวัล 100 บาท ขณะที่ดอกเบี้ยของบัตรเพิ่มทรัพย์ ชุดที่ 5 จะอยู่ที่หน่วยละ 1 บาท หรือ 0.33% ต่อปี ถ้าฝากจนถึงวันที่ 20 มิ.ย. 2556 (หรือครบ 3 ปี)

ดังนั้น เมื่อรวมผลตอบแทนทั้งหมดในระยะ 3 ปี เท่ากับ 4,600 บาท หรือ 1.53% ต่อปี สำหรับเงินลงทุน 1 แสนบาท

แต่ถ้าฝากตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แล้วต้องการถอนเงินออกไปก่อนครบกำหนด 3 ปี จะได้เงินต้นคืนเต็มจำนวนหน่วยละ 100 บาท บวกด้วยเงินรางวัลที่ได้รับ แต่ไม่มีดอกเบี้ย

สำหรับคนที่สนใจสลาก ธ.ก.ส. ชุดที่ 5 นี้ คงต้องรีบแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ใกล้จะเต็มแล้ว

2 แบบ 2 สไตล์

หลังจากรู้จักทั้งสลากออมสินและสลาก ธ.ก.ส. ในมุมต่างๆ แล้ว ก็ได้ข้อสรุปง่ายๆ ว่า “เงินน้อยซื้อสลาก ธ.ก.ส. เงินเยอะซื้อสลากออมสิน” เพราะเราใช้เงิน 1 แสนบาท ก็สามารถซื้อสลาก ธ.ก.ส. แบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยได้แล้ว แต่ถ้ามีเงิน 5 แสนบาท เท่ากันสลาก ธ.ก.ส. จะให้ผลตอบแทนต่ำกว่าสลากออมสินนิดหน่อย

นอกจากนี้ ยังได้คำแนะนำของคนที่ชอบการลงทุนสลากออมสิน (ซึ่งขอให้ฟังไว้เป็นแนวคิด และคนที่ชอบซื้อสลากไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยก็ได้) แนะนำว่า ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสิน หรือ สลาก ธ.ก.ส. ก็ไม่ควรจะซื้อ ถ้าเงินไม่มากพอที่จะซื้อเลขสลากให้ครบจนได้รางวัลทุกเดือน เพราะมีโอกาสไม่มากนักที่คนที่มีสลากแค่ไม่กี่ใบอยู่ในมือแล้วจะถูกรางวัลทุกเดือน

รวมทั้งทฤษฎีที่บอกว่า “มีเงินน้อยทยอยออม” (Dollar Cost Averaging) ใช้ไม่ได้กับการซื้อสลากที่ต้องการถูกรางวัลทุกงวด เพราะการค่อยๆ ทยอยซื้อสลากจะทำให้ได้เลขสลากที่ไม่เรียงกัน ทำให้โอกาสที่จะถูกรางวัลทุกงวดเป็นไปได้น้อย

นอกจากนี้ ความพยายามจะหาเลขไม่ซ้ำก็ยังยาก เพราะสลากออมสินและสลาก ธ.ก.ส. ไม่เหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เราสามารถเดินไปเลือกซื้อเลขที่ชอบได้ แต่สลากออมสินต้องไล่ไปตามลำดับ เว้นแต่ในบางกรณีที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่อาจจะมีสิทธิพิเศษได้บ้าง

แต่หากเข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารออมสินจะเห็นบริการใหม่ล่าสุด ที่แม้จะยังไม่ได้เปิดให้บริการในขณะนี้ เพราะอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ นั่นคือ “สลากออมสิน Internet” ที่เปิดให้ซื้อสลากออมสินผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยที่เราสามารถเลือกเลขสลากที่ต้องการซื้อได้เอง หรือจะปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา โดยการจัดสรรหน่วยแบบอัตโนมัติก็ได้

นอกจากนี้ สลากออมสิน Internet ยังเปิดโอกาสให้คนที่มีเงินน้อยได้ทยอยออม โดยวิธีการชำระเงินแบบตัดบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกของธนาคารออมสิน หลังจากนั้นธนาคารจะจัดส่งสลากมาให้ถึงบ้าน แต่ต้องเสียค่าจัดส่งครั้งละ 20 บาท

แต่ไม่ว่าจะมีเงินน้อยเงินมากสำหรับ “คนชอบเสี่ยงดวง” แล้ว การเก็บออมเพื่อซื้อ “สลากออมสิน” หรือ “สลาก ธ.ก.ส.” ก็ดีกว่าไปเสียเงินซื้อ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” (ที่ขายเกินราคาอย่างไม่กลัวใคร) เพราะเงินต้นไม่หายไปไหน กินแล้วไม่ต้องแบ่งใคร

แถมยังลุ้นรางวัลทุกเดือนเหมือนกัน