สคบ.นัดระดมสมอง รื้อ10ธุรกิจควบคุมสัญญา
สคบ.ทบทวนกฎเหล็กคุมสัญญาธุรกิจ ทั้งมือถือ บัตรเครดิต เช่าซื้อ หลังพบมีกฎหมายเฉพาะดูแล ทำให้ผู้บริโภคสับสน รวมทั้งแก้สัญญาที่ล้าสมัยหลังบังคับใช้มานานกว่า 10 ปีแล้ว
สคบ.ทบทวนกฎเหล็กคุมสัญญาธุรกิจ ทั้งมือถือ บัตรเครดิต เช่าซื้อ หลังพบมีกฎหมายเฉพาะดูแล ทำให้ผู้บริโภคสับสน รวมทั้งแก้สัญญาที่ล้าสมัยหลังบังคับใช้มานานกว่า 10 ปีแล้ว
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ. จัดการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา รวม 10 เรื่อง ในวันที่ 28-29 มิถุนายน นี้ ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารอิมแพ็คคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งเพื่อรวบรวมปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายโดยรับฟังความคิดเห็นจากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง และนำไปเป็นแนวทางในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค และจะปรับปรุงแก้ไขให้เสร็จภายในปีหน้า
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้สคบ.จะต้องมาทบทวนประกาศที่กำหนดให้ธุรกิจต่างๆเป็นธุรกิจที่ต้องควบคุมสัญญา เช่น ขณะนี้มีกฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานห้องชุด ส่วนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็มี สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ออกประกาศควบคุมธุรกิจ รวมถึงการควบคุมสัญญาธุรกิจบัตรเครดิต ก็มีธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแล และล่าสุดรัฐบาลก็พยายามที่จะผลักดันกฎหมายบัตรเครดิตออกมาใช้
“ขณะนี้เกิดความสับสนของผู้ประกบอการการว่าจะกำหนดมาตรฐานสัญญาของหน่วยงานมาใช้ และหามีการกระทำความผิดในสัญญาจะใช้กฎหมายใดลงโทษ อย่างเช่น ถ้าผู้ประกอบการโทรคมนาคมทำผิดสัญญามีโทษยกเลิกใบอนุญาต หรือปรับเท่านั้นแต่ถ้าเป็นการผิดสัญญาตามประกาศของสคบ.จะมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาทและจำคุกไม่เกิน 1 ปีเป็นต้น รวมทั้งหากผู้บริโภคมีปัญหาได้รับความไม่เป็นธรรมกับสัญญาจะไปร้องเรียนกับหน่วยงานใด ซึ่งเห็นว่าควรจะรวบรวมหน่วยงานดูแลให้เป้นหน่วยงานเดียวเพื่อให้มีการจัดการแบบเบ็ดเสร็จ” นายพิฆเนศกล่าว
ขณะเดียวกัน หากสัญญาใดไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลจะมีการแก้ไขปรับปรุงใหม่ เนื่องจากบางสัญญามีการใช้มาเกือบ 10 แล้ว มีความล้าสมัย และไม่สามารถป้องกันปัญหาความไม่เป็นธรรมให้กับผู้บริโภคได้โดยได้เชิญผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและหน่วยงานภาครัฐ องค์กรสังคมมาระดมความคิดเห็นเพื่อที่จะปรับปรุงแก้ไขโดยเฉพาะประเด็นการใบเสร็จรับเงิน
ทั้งนี้สคบ.จะมีการทบทวนสัญญา 10 ฉบับ ได้แก่ ธุรกิจเช่าที่อยู่อาศัย ซื้อขายห้องชุด ธุรกิจซ่อมรถยนต์ ธุรกิจขายรถมือสอง ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจก๊าซหุงต้ม ธุรกิจบัตรบัตรเครดิต ธุรกิจกู้ยืมเงินเพื่อผู้บริโภค เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ ยังไม่ปรับปรุงเพราะเพิ่งออกประกาศเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา


