‘ไมโครอินชัวรันส์’ เกาะกองทุนหมู่บ้านฯโต

โดย...วารุณี อินวันนา

จากสวัสดิการรัฐในการดูแลประชาชนมีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดแนวคิดให้ประชาชนสร้างหลักประกันให้ตัวเอง ผ่านประกันชีวิตและประกันภัย โดยมุ่งไปที่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศให้เข้าถึงความคุ้มครองราคาถูก เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน

หนึ่งในกรมธรรม์ที่ภาครัฐผลักดันออกมาคือ โครงการไมโครอินชัวรันส์ที่มีกรมธรรม์ประกันภัย 200 เป็นพระเอก เพราะราคาถูกมาก ชำระเบี้ยปีละ 200 บาท ได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 1 แสนบาท หากเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์จะได้รับการชดเชยครึ่งหนึ่ง คือ 5 หมื่นบาท และถ้าเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย หลังทำประกันภัย 120 วัน จะได้รับค่าชดเชย 1 หมื่นบาท

นอกจากนี้ ยังมีประกันราคาถูกรูปแบบอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มไมโครอินชัวรันส์ ทั้งการประกันภัยอุบัติเหตุ การประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยแบบประหยัด การประกันภัยท่องเที่ยวสุขใจ สำหรับรายย่อย การประกันภัยโรคมะเร็งใจป้ำ และประกันชีวิต ที่เบี้ยประกันภัยไม่ถึง 1,000 บาท/ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน

1 ปีแรก เป้าหมายที่วางไว้ 1 ล้านฉบับ พลาดเป้ามีประชาชนซื้อเพียง 8.11 แสนฉบับเท่านั้น ในปี 2558 นี้ ประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตั้งเป้าหมายเชิงระมัดระวังหวังว่าจะมีประชาชนซื้อทะลุ 1 ล้านคน ซึ่งดูมีความเป็นไปได้สูง

ทั้งนี้ เพราะตัวกลางอย่างเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่อยู่ในเซเว่น อีเลฟเว่น เคาน์เตอร์เทสโก้ โลตัส โบรกเกอร์ประกันภัยในห้างเทสโก้ โลตัส เคาน์เตอร์ เซ็นทรัล สมาร์ท อินชัวร์ ที่อยู่ในห้างเซ็นทรัล โรบินสัน และท็อปส์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน มีความพร้อมมากขึ้น

โดยเฉพาะบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่เป็นนายหน้ารายแรกที่สามารถเชื่อมระบบออนไลน์กับ คปภ.ได้แล้ว สามารถออกกรมธรรม์ให้ลูกค้าได้ทันทีที่จุดขาย 8,400 แห่งทั่วประเทศ

วีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส มีความตั้งใจสูงในการที่จะให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ครัวเรือนเข้าถึงประกันภันในมูลค่าที่ถูกมากๆ หลังจากเปิดขายประกันไมโครอินชัวรันส์มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 50-60% ปัจจุบัน วางขายประกันไมโครอินชัวรันส์ให้กับ 8 บริษัท

ขณะที่ คปภ.ได้รุกเข้าไปทำประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ โดยตรงกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) เพราะมองว่าตัวแทนจากกองทุนหมู่บ้านฯ มีความน่าเชื่อถือสูงต่อสมาชิกกว่า 13 ล้านคน

นที ขลิบทอง ผู้อำนวยการ กองทุนหมู่บ้านฯ กล่าวว่า ทาง คปภ.ขอเข้ามาให้ความรู้ประกันภัย 200 ทางกองทุนฯ และเห็นว่าเป็นโครงการของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนมีความคุ้มครองในราคาถูก น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกกองทุนฯ ที่มีประมาณ 13 ล้านคนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา คปภ.ได้เข้าร่วมงาน “เพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สร้างโอกาส สร้างความสุขให้หมู่บ้าน และชุมชนเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” กับทางกองทุนฯ ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจากทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานร่วมงานกว่า 4,000 คน ครั้งต่อไป คปภ.ก็จะไปให้ความรู้แก่ประชาชนในงานดังกล่าวภาคเหนือ โดยจัดที่ จ.พิษณุโลก

การเข้าหาตัวแทนจากเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศ หากสามารถนำไปเผยแพร่ประโยชน์ของประกัน 200 ให้แก่สมาชิกได้ เป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีประชาชนซื้อประกันราคาถูกทะลุ 1 ล้านฉบับเป็นไปได้สูง