posttoday

‘GIFZY’ เจ้าตลาดค้าส่ง เสื้อผ้าแฟชั่น ‘มุสลิม’

10 มีนาคม 2558

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

สำหรับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยหรือลูกค้าทั่วไปที่กำลังมองหาของใช้ของตกแต่ง แอกเซสซอรี่เก๋ๆ น่ารักๆ รวมถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นมุสลิมในย่านตลาดสำเพ็งให้ครบได้ในจุดเดียว หากลองแวะมาที่ร้านกิฟซี่ (GIFZY) แล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นที่ถูกใจไม่น้อยสำหรับนักช็อป ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการถึง 3 สาขา ในซอยวานิช 1 สำเพ็ง คือ สาขา 1 เลขที่ 294 สาขา 2 เลขที่ 262 และสาขา 3 เลขที่ 69

จิรบูลย์ หิรัญทิพรัตน์ เจ้าของธุรกิจร้านค้าส่ง-ปลีก สินค้าแบรนด์ GIFZY (กิฟซี่) ทั้ง 3 สาขาในตลาดสำเพ็ง ย้อนที่มาก่อนจะเปิดร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับของใช้เครื่องแต่งกายมุสลิมในย่านนี้ ที่แม้
เจ้าตัวจะเป็นไทยพุทธร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีความสนใจทำธุรกิจสินค้าในกลุ่มนี้ ด้วยมองเห็นโอกาสจากความท้าทายในตลาดที่ยังไม่มีผู้เล่นในตลาดนี้อย่างจริงจังเมื่อสัก 10 ปีที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้า จิรบูลย์เคยเป็นผู้ผลิต (เมกเกอร์) สินค้าแฟชั่นกลุ่มที่คาดผมให้กับแบรนด์ดังมาก่อน ทำให้สั่งสมประสบการณ์ตั้งแต่การออกแบบและขั้นตอนการผลิต การเลือกวัตถุดิบอย่างผ้าประเภทต่างๆ มาใช้ในการผลิตสินค้าที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ จากการส่งสินค้าให้กับเจ้าของแบรนด์ที่นำไปทำตลาดต่ออีกทอดทั้งภายในและต่างประเทศ

ต่อมาในช่วงปี 2538-2540 ธุรกิจได้ประสบปัญหาภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจากคำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) ที่เริ่มชะลอตัว แต่ขณะนั้นก็ยังไม่คิดปิดกิจการด้วยความเป็นห่วงลูกน้องที่มีร่วม 20 ชีวิต ทำให้ตัดสินใจมองหาลู่ทางการทำธุรกิจใหม่ โดยนำสินค้าออกไปขายในห้างค้าปลีกต่างๆ พร้อมกับมาดูทำเลการค้าในตลาดสำเพ็งเป็นครั้งแรก ด้วยการเปิดเป็นบูธขายของเล็กๆ อยู่หลังตึกในตลาดแห่งนี้ราวปี 2541

จากคุณภาพสินค้าและการออกแบบที่มาพร้อมกับการใช้กลยุทธ์ราคาที่คาดผมชิ้นละ 19 บาท ทำให้มีลูกค้าสนใจเข้ามาซื้อและสั่งออร์เดอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเจอลูกค้าชาวอิรักที่มาสั่งซื้อสินค้าล็อตแรกมูลค่ากว่าแสนบาทครั้งเดียวในสมัยนั้น ทำให้มองเห็นว่าตลาดสินค้าเครื่องประดับของตกแต่งแฟชั่นสำหรับมุสลิมน่าจะมีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต จึงตัดสินใจขยายการผลิตสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าสำหรับมุสลิมรายการต่างๆ ออกมาทำตลาดเพิ่มภายใต้แบรนด์กิฟซี่

“ในช่วงแรกแบรนด์กิฟซี่ต้องต่อสู้กับทั้งตลาดจีนและตลาดเช้าในย่านสำเพ็ง ที่จะถืองานของเราไปก๊อบปี้สินค้าออกมาทำขาย แต่ทางร้านมีจุดแข็งด้านคุณภาพในการผลิตและการออกแบบที่พี่ลงมาดูหน้าร้านเอง บวกกับใช้กลยุทธ์หากสินค้าตัวไหนขายไม่ดีก็จับมาเซลส์เลย พร้อมกับทำของใหม่ๆ มาลงทุกวัน ที่ทำให้ร้านกิฟซี่กลายเป็นผู้นำเทรนด์สินค้ากลุ่มดังกล่าวในย่านนี้ไปด้วย” จิรบูลย์ เล่า

สำหรับสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านกิฟซี่ทั้ง 3 สาขา อาทิ เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแฟชั่นมุสลิม หรือโต๊ปสำหรับผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงชุดว่ายน้ำสตรีมุสลิม ที่ปัจจุบันทางร้านยังอยู่ระหว่างขยายไลน์การผลิตสินค้าใหม่ คือ ชุดเด็กอ่อนมุสลิมวัย 6-7 เดือน ออกมาทำตลาดในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับรถ/บ้าน เสื้อเชิ้ต ผ้ากันเปื้อน โครงคาดผม (แฮร์แบนด์) ผ้าคาดผม (เฮดแวร์) กิ๊บติดผม และสายคาดผม (แฮร์แบนด์/โรป) เป็นต้น

ปัจจุบัน ร้านกิฟซี่มีสัดส่วนรายได้ในรูปแบบค้าส่ง 70% และค้าปลีก 30% ซึ่งทางร้านจะมีโรงงานผลิตสินค้าตั้งอยู่ในย่านลาดกระบัง และยังเข้าไปลงทุนว่าจ้างผลิต (เอาต์ซอร์ส) ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตด้านค่าแรงที่ถูกกว่าไทยตั้งแต่ 3 ปีก่อน

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ทางร้านไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจากกำลังซื้อสินค้าในกลุ่มชาวมุสลิมที่ยังมีสูง ที่ต่างให้ความสำคัญในการแต่งกายในงานเทศกาลสำคัญๆ ทางศาสนา หรืองานพิธีการต่างๆ ที่ปัจจุบันพบว่าร้านค้าเสื้อผ้ามุสลิมในย่านตลาดชุมชนใหญ่ๆ อาทิ มีนบุรี กว่า 70% ก็มารับสินค้าไปขายต่อจากทางร้านเช่นกัน ซึ่งในอนาคตยังมองถึงการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วย

สำหรับยอดขายร้านกิฟซี่ในปีนี้ วางเป้าหมายคาดมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% ส่วนหนึ่งจากการขยายสินค้ากลุ่มใหม่ๆ อย่างชุดมุสลิมสำหรับเด็กอ่อน จากในแต่ละวันร้านกิฟซี่ทั้ง 3 สาขา มียอดขายราว 4 แสนบาทวัน

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68