posttoday

เซนศาลาลุยลงทุนรร. ปักธงสมุย-ภูเก็ต-เขาหลัก

09 มกราคม 2558

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

เสน่ห์ของเมืองไทยยังคงเป็นที่หลงใหลให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากเดินทางมาต่อเนื่อง กลายเป็นแรงจูงใจสำคัญให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่ธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อรองรับความต้องการ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ระดับราคาถูกไปจนถึงหรูหรา แต่การทำธุรกิจนี้ในไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะการแข่งขันสูงมาก

หยก เดชอมร กรรมการผู้จัดการ เซนศาลา รีสอร์ท เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เซนศาลา เชียงใหม่ มีห้องพัก 14 ห้อง ใช้เงินลงทุนก่อสร้างไป 30 ล้านบาท เปิดให้บริการมาแล้ว 3 ปี จัดเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ (บูติก โฮเต็ล) ที่บริหารงานเองไม่ได้จ้างบริษัทใดบริหารให้ เพราะจำนวนห้องไม่มากสามารถบริหารจัดการได้ง่าย และสามารถทำตลาดเพื่อดึงลูกค้าเติมเต็มห้องพักได้ไม่ยาก แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) คนมาเข้าพักไม่เต็ม โรงแรมก็ยังเลี้ยงตัวเองได้เพราะมีพนักงานไม่มาก ส่วนช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ลูกค้าเต็มทุกวัน

ธุรกิจโรงแรมในเชียงใหม่แข่งขันสูงเพราะจำนวนโรงแรมมาก ดังนั้นหากจะแข่งขันได้ต้องหาจุดที่เป็นเอกลักษณ์มานำเสนอ ซึ่งจุดเด่นของเซนศาลา คือ การบริการของพนักงานเน้นเป็นเสมือนผู้ช่วยประจำตัวของผู้เข้าพักคอยตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

สำหรับราคาห้องพักปกติจะปรับขึ้นปีละ 5-10% สอดคล้องกับตลาดรวม แต่เมื่อปรับราคาแล้วก็ต้องปรับการบริการให้ลูกค้ารู้สึกว่ามาพักแล้วคุ้มค่าเงินมากขึ้นแม้จะจ่ายเงินมากขึ้นด้วย ซึ่งปี 2558 คาดว่าจะปรับขึ้นราคาห้องพัก 10% โดยทางโรงแรมมีแผนจะปรับปรุงการตกแต่งภายในห้องพักใหม่ รวมถึงเพิ่มกิจกรรมให้ทำภายในโรงแรม ให้ลูกค้ารู้สึกว่ามาแล้วได้รับบริการมากขึ้น

ปัจจุบันลูกค้าหลักของโรงแรมคือนักท่องเที่ยวไทยและจีน โดยคนจีนเริ่มมากขึ้นช่วงที่โรงแรมเปิดให้บริการ 2 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจีนที่เดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) จองโรงแรมผ่านตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) ซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่ากลุ่มที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยว

เมื่อพิจารณาภาพรวมช่องทางการจองของลูกค้า พบว่า มาจากการจองผ่านโอทีเอถึง 60% จองตรงกับทางโรงแรม 30% ที่เหลือจองผ่านตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยว 10% ซึ่งโรงแรมก็พยายามเพิ่มสัดส่วนจองตรงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่องทางที่ไม่ต้องเสียส่วนต่างค่าธรรมเนียมให้กับนายหน้า รายได้เข้ามาเต็มจำนวน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังต้องให้ความสำคัญกับช่องทางโอทีเออยู่ เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยประชาสัมพันธ์โรงแรมให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก

“ช่องทางโอทีเอแข่งขันสูงมากด้านราคา แต่โรงแรมพยายามไม่ไปแข่งเรื่องราคา เพราะมองว่าหากแข่งขันลดราคามากไปธุรกิจต่างฝ่ายก็ต่างเจ็บตัว จะเน้นคงราคาเดิมไว้แต่เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า เช่น จองมา 2 คนมีรถรับส่งจากสนามบินให้ ปัจจุบันโอทีเอที่ใช้หลักๆ มี 3 ราย แต่ปี 2558 จะเพิ่มช่องทางขายผ่านโอทีเอหลากหลายขึ้น รวมทั้งมุ่งทำตลาดจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์” หยก กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากโรงแรมที่เชียงใหม่ ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท สร้างยู เซนมายา ภูเก็ต รีสอร์ท มีประมาณ 50 ห้อง ซึ่งโรงแรมนี้ได้จ้างบริษัทบริหารจัดการโรงแรมบริหารให้ เนื่องจากจำนวนห้องพักมาก มองว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ขณะที่ผู้บริหารเองอาจมีเวลาดูแลไม่เต็มที่

ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างลงทุนโรงแรมอีกแห่งที่ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ติดกับยู เซนมายา คาดว่าจะสร้างเสร็จปลายปี 2558 มีไม่ต่ำกว่า 100 ห้อง มีห้องพักประเภทพูลวิลล่าด้วย น่าจะให้บริษัทบริหารจัดการโรงแรมดูแลเช่นกัน และอนาคตมีแผนลงทุนโรงแรมเพิ่มอีก โดยปัจจุบันมีที่ดินในมือแล้วที่ภูเก็ต สมุย และเขาหลัก คาดว่าพื้นที่ต่อไปที่จะลงทุนคือ สมุย ซึ่งกำลังศึกษาตลาดอยู่ว่าจะลงทุนโรงแรมประเภทใด อาจเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องพักไม่มาก บริหารเองได้ และอาจนำแบรนด์เซนศาลา มาใช้ หรือเป็นแบรนด์ที่มีคำว่า “เซน” เช่นเดียวกับโรงแรมก่อนหน้านี้ ส่วนเงินลงทุนน่าจะอยู่ที่ 30 ล้านบาท

หยก กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาบ้านเมืองไม่สงบ ทำให้การท่องเที่ยวไม่มีเสถียรภาพ นักท่องเที่ยวต่างชาติหดหายไป เหลือแต่เพียงคนไทยที่เดินทาง แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นการท่องเที่ยวก็กลับมา จึงอยากให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพที่สุด เพราะเมื่อบ้านเมืองสงบ ไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ต่างชาติอยากมา

คงต้องฝากความหวังไว้ที่รัฐบาลช่วยดูแลประเทศให้สงบยืนยาว เพื่อการท่องเที่ยวไทยเดินหน้าได้อย่างมั่นคงอย่างที่เอกชนหวังกัน

ข่าวล่าสุด

หลีกหนีความวุ่นวาย ฉลองปีใหม่สุดหรูบนเกาะส่วนตัวที่ นาคา ไอแลนด์