ศาลตัดสินจำคุก-ปรับอดีตบิ๊กไดโดมอน
ศาลอาญาตัดสินจำคุกและปรับ อดีตผู้บริหารไดโดมอน 6 ราย ทำบัญชีเท็จและทุจริตให้การเป็นประโยชน์
ศาลอาญาตัดสินจำคุกและปรับ อดีตผู้บริหารไดโดมอน 6 ราย ทำบัญชีเท็จและทุจริตให้การเป็นประโยชน์
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่าศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษอดีตผู้บริหารบริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป (DAIDO) กรณีจัดทำบัญชีหรือเอกสารเท็จ ทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์สินของไดโดมอนและผู้สนับสนุนรวม 6 ราย ซึ่ง 3 รายเป็นผู้บริหาร ประกอบด้วย 1.นายซิซิโร ฟูคูด้า 2.นายพิศาล จรัสเลิศรังษี และ 3.น.ส.กานต์ชนก หรือ ณัชพร ลิขิตศิริทรัพย์ หรือรัสรินทร์ สุรพัฒนไพศาล ในความผิดร่วมกันปลอมเอกสาร บันทึกบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อความจริง และทุจริตเบียดบังทรัพย์สินของไดโดมอน
สำหรับอีก 3 ราย เป็นผู้สนับสนุนคือ 4.บริษัท บัดเจท แมเนจเมนท์ แอนด์ ดีไซน์ 5.นายมณเฑียร พงษ์เกียรติก้อง และ 6.นายชัย พงศ์ธนาวรานนท์ หรือนายกิตติวุฒิ อรรถวัฒนาถ
ทั้งนี้ วันที่ 28 ต.ค. 2557 ศาลอาญามีคำพิพากษาว่า อดีตผู้บริหารไดโดมอน ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1-3 มีความผิดตามมาตรา 307 มาตรา 308 มาตรา 311 และมาตรา 312 (1) (2) (3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ และมาตรา 264 มาตรา 268 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนจำเลยที่ 4-6 มีความผิดฐานสนับสนุนในการปลอมเอกสาร
จำเลยทั้ง 6 ให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยจำเลยที่ 1 มีความผิด 11 กระทง จำคุก 12 ปี 66 เดือน และปรับ 1,507,500 บาท จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิด 9 กระทง จำคุกรายละ 10 ปี 54 เดือน และปรับรายละ 1,256,000 บาท จำเลยที่ 4 มีความผิด 1 กระทง ปรับ 1,000 บาท จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 จำคุก รายละ 4 เดือน และปรับรายละ 1,000 บาท
นอกจากนี้ ศาลได้พิเคราะห์พฤติการณ์การกระทำความผิด การบรรเทาผลร้ายภายหลังการกระทำความผิดและพฤติเหตุแวดล้อมแห่งคดีทุกทางแล้ว เห็นควรให้โทษจำคุกของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดรายละ 2 ปี
คดีนี้สืบเนื่องจาก ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร DAIDO 3 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2548 คือ นายซิซิโร อดีตประธานกรรมการ นายพิศาล อดีตรองประธานกรรมการ รับผิดชอบฝ่ายการเงินและฝ่ายบัญชีและ น.ส.กานต์ชนก หรือณัชพร หรือรัสรินทร์ อดีตรองประธานกรรมการ รับผิดชอบฝ่ายโครงการของบริษัท กรณีจัดทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริงและจัดทำเอกสารเท็จ ในงบการเงินของ DAIDO ประจำปี 2545 และงบไตรมาสแรก และ 2 ของปี 2546
ทั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับฐานะการเงินที่แท้จริงของ DAIDO ต่อมาพนักงานสอบสวน ขยายผลการสอบสวนและสั่งฟ้องผู้สนับสนุนเพิ่มเติมอีก 3 ราย


