แอคคอร์หวังปีหน้าท่องเที่ยวกลับมาดีเท่าปี56
แอคคอร์คาดหวังปีหน้าท่องเที่ยวดีอัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเครือเท่ากับปี56
แอคคอร์คาดหวังปีหน้าท่องเที่ยวดีอัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในเครือเท่ากับปี56
นายแพทริค บาสเซ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแอคคอร์ ประจำประเทศไทย เวียดนาม เกาหลีใต้ กัมพูชา ลาว พม่าและฟิลิปปินส์ เครือแอคคอร์ เปิดเผยว่า ปีหน้าการท่องเที่ยวน่าจะดีและทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมเครือแอคคอร์ในไทยกลับไปเท่ากับทั้งปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 71% จากที่ปีนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ย 66% ลดลงจากปี 2556 ส่วนแผนการขยายโรงแรมในไทย จะเซ็นสัญญารับบริหาร 10 แห่งต่อปี ปีนี้มีโรงแรมในไทยแล้วรวม 54 แห่ง ในจำนวนนี้เพิ่งเซ็นสัญญากับแอคคอร์ปีนี้ 7 แห่ง เปิดไปแล้ว 4 แห่ง อีก 3 แห่ง อยู่ระหว่างรีแบรนด์เป็นแบรนด์ในเครือแอคคอร์ ได้แก่ พูลแมน เขาหลัก คัทลียา รีสอร์ท แอน์ วิลล่า, โฮเทล เดอ ลา เพ หัวหิน จะรีแบรนด์เป็นโซฟิเทล โซ และโฮเทล บาราคูดา พัทยา จะรีแบรนด์เป็น เอ็ม แกลอรี นอกจากนี้ยังมีโรงแรมอีก 5 แห่งอยู่ในแผนที่จะเปิดตั้งแต่ปี 2558 - 2560
ทั้งนี้ภาพรวมการดำเนินงานของโรงแรมในไทย ตั้งแต่ พ.ย. 2556 - ก.ค. 2557 ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางมาลดลงจากปัญหาการเมือง แต่ตลาดในประเทศยังเติบโตอยู่ และเป็นตลาดใหญ่มากสำหรับเครือแอคคอร์เวลานี้ มีสัดส่วน 19% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด เพิ่มขึ้น 1.6% จากสัดส่วนในปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาใช้บริการมากอันดับ 2 รองจากคนไทย คือ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รวมถึงเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ โดยรวมแล้วสัดส่วนลูกค้าของแอคคอร์มาจากเอเชีย 63% คาดว่าปีหน้าตลาดเอเชียจะเป็นตลาดที่แข็งแกร่งของแอคคอร์ โดยเฉพาะจีน ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจาก 12% ของตลาดรวมเป็น 15% ใน 3 ปี เน้นตลาดจีนระดับบน
สำหรับปีนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 61% ลดลงจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 74% ภูเก็ตอยู่ที่ 70% เท่ากับปีก่อน โดยกฎอัยการศึกที่ออกมามีผลกระทบหนักกับโรงแรมในเดือน มิ.ย. แต่หลังจากนั้นไม่มีผลมากนัก ส่วนตัวอยู่ในไทยมานานทราบดีว่ากฎอัยการศึกไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยว และสำหรับนักท่องเที่ยวแล้วก็ไม่ได้เป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก สิ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญคือเรื่องความปลอดภัยมากกว่า ขณะที่ทิศทางการจองห้องพักเป็นแบบนาทีสุดท้าย (ลาส มินิท) มากขึ้น อาจมาจากนักท่องเที่ยวต้องการรอให้แน่ใจว่าปลอดภัยจึงตัดสินใจมาเที่ยว และต้องการรอได้โปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ
นายแพทริค กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีโรงแรมที่บริหารโดยเครือระดับนานาชาติ (อินเตอร์แบรนด์) และระดับภูมิภาค (รีเจียนัลแบรนด์) 20% ของจำนวนห้องพักโรงแรมทั้งประเทศ แต่ 10 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% สอดคล้องกับทิศทางตลาดเอเชียที่กลุ่มอินเตอร์แบรนด์ และรีเจียนัลแบรนด์จะเติบโตมาก เนื่องจากกลุ่มเจ้าของโรงแรมรายเดี่ยวจะเริ่มต้องการเปลี่ยนมาใช้แบรนด์บริหารมากข้น เนื่องจากมีเครือข่ายที่ดี มีช่องทางการตลาดเองในมือ มีศักยภาพมากกว่าการบริหารเอง


