"บัตเตอร์ฟลาย" ต้นตำรับนมออแกนิคส์ ขายดีจนผลิตไม่ทัน
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน
หนึ่งในสินค้าดาวรุ่งของประเทศที่ผลิตสินค้าไม่ทันกับความต้องการของผู้บริโภค และบางปีผลผลิตก็น้อย
ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมสูงมาก และเป็นธุรกิจที่เรียกว่าทำยากมากเช่นกับ “นมออแกนิคส์” ที่ต้องใส่ใจดูแลทุกขั้นตอนการผลิต แม้ว่า จะเป็นสุดหินแต่ก็มีเอสเอ็มอีไทยที่สร้างนมออแกนิคส์แบรนด์ “บัตเตอร์ฟลาย” ได้เป็นผลสำเร็จ
เมื่อสำรวจตลาดสินค้าออแกนิคส์ของไทยตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการประเมินไว้ ในปีนี้จะมีมูลค่า 3,000 ล้านบาทเติบโต 10-15% จากปีก่อน และภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ การส่งออกจะเติบโตถึง 5,000ล้านบาท เพราะตลาดโลกทั้งสหรัฐและยุโรป ที่ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้าออแกนิสค์รวมถึงในไทยที่ผู้บริโภคสนเพิ่มขึ้นทุกปี
“อาศยาปรียาศักดิ์สกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตเตอร์ฟลายออร์แกนิค เจ้าของนมออแกนิค “บัตเตอร์ฟลาย” (Butterfly) แบรนด์แรกในประเทศ โดยได้เข้ามาทำธุรกิจนมออแกนิคส์มาประมาณ3 ปีที่ผ่านมา เริ่มจากช่องทางทำตลาดผ่านร้านซูเปอร์มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ เพราะในประเทศไทยยังไม่มีแบรนด์ นมออแกนิคส์ส่งผลให้ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย ยอมรับสินค้าทันที
การเป็นผู้นำในธุรกิจและเป็นแบรนด์แรกโดยไม่มีคู่แข่ง ทำให้สินค้าได้รับความสนใจจากลูกค้าสูงอีกสิ่งสำคัญคือ การที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในไทยเข้าใจในสินค้าออแกนิคส์ว่าเป็นสินค้าที่ตลาดต้องการ และเป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อดีส่งผลให้สามารถเข้าวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตได้สะดวก ไม่ผ่านขั้นตอนยุ่งยาก โดยสินค้ามีช่องทางจำหน่ายหลักในวิลล่า มาร์เก็ต,ท็อปส์,ฟู้ดแลนด์, แม็กซ์แวลู และเลมอน ฟาร์ม
พร้อมกันนี้ยังมีบริการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าสมาชิก เป็นรายสัปดาห์ โดยส่งนมสดๆตรงมาจากฟาร์มของ องค์การส่งเสริมโคนมเเห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จ.สระบุรี โดยมีลูกค้าประจำในกทม. ในจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความรู้และเข้าใจกับสินค้าออแกนิคส์
แต่ทั้งนี้สินค้าจะไม่สามารถเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตได้เลยหากไม่มีคุณภาพที่ดี โดย บัตเตอร์ฟลาย ออแกนิคส์ สามารถทำธุรกิจสุดยากได้มาจากการได้ร่วมมือกับ “องค์การส่งเสริมโคนมเเห่งประเทศไทย” (อ.ส.ค.)อยู่ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่ต้นแบบของฟาร์มโคนม ออแกนิคส์ ในประเทศ จึงได้ใช้แหล่งน้ำนมดิบที่มีคุณภาพสูงในประเทศ รวมทั้งมีเครือข่ายนักวิชาการใน มหาวิทยาลัยพร้อมให้ความรู้และแนะนำต่างๆ
หากทำความเข้าใจกับนมออแกนิคส์ ต้องมาการ การเลี้ยงโคนมที่เป็นออแกนิคส์ อาหารสัตว์ต้องเป็นออแกนิคส์และเมื่อโคป่วยก็ต้องใช้วิธีการรักษาที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีในอาหารสัตว์รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อการรักษา และต้องเลี้ยงให้โคนมมีความสุข โดยโคนมที่เป็นออแกนิคส์รวม 40 ตัว และให้น้ำนมเฉลี่ย 7-8 กิโลกรัมต่อตัวและวันถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับ โคนมทั่วไป ให้นมเฉลี่ย 20 กิโลกรัมต่อตัวและต่อวัน
ขั้นตอนการเลี้ยงที่ละเอียดอ่อนต้องใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ฟาร์มโคนมและเกษตรกร มีจำนวนน้อยมากที่สนใจทำฟาร์มโคมนมออแกนิคส์อีกทั้งมีต้นทุนแฝงในการประกอบการสูง รวมทั้งขณะนี้กำลังประสบปัญหาเรื่องการหาอาหารสัตว์ให้โค มีความยากลำบาก และราคาสินค้าที่แพงกว่า นมทั่วไปประมาณ 1 เท่าตัว โดยเฉลี่ยมีการผลิตนมออกมาประมาณ 100-200 ลิตรต่อวัน
อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้การทำธุรกิจนี้ต้องใช้ใจบริการรวมอยู่ด้วย เพราะนมออแกนิคส์ มีอายุการจัดเก็บ 10 วันลูกค้าจะต้องรีบดื่มทันที จึงต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนทำให้แม้ว่าในช่วงแรกจะมีปัญหาเรื่อง ลูกค้าไม่เข้าใจทำไมนมเสียแต่เมื่ออธิบายและทำความเข้าใจแล้ว ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าต่อเนื่อง
ตลาดนมออแกนิคส์ไม่ได้จำกัดแค่กลุ่มลูกค้าที่ชอบสุขภาพเท่านั้น ยังสามารถเจาะตลาดไปได้ถึงลูกค้าที่ดื่มนมวัวและแพ้ แต่เมื่อมาดื่มนมออแกนิคส์ ก็ไม่มีอาการแพ้เพราะไม่มีสารตกค้างและนมออแกนิคส์มีผลวิจัยว่ามีประโยชน์และสารอาหารมากกว่านมทั่วไปในระดับสูง เอกลักษณ์ของนมออแกนิคส์ อีกด้านคือ รสชาติจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อนตามสภาพอากาศต่างๆ
“อารศยา” กล่าวย้ำว่า ต้องมีใจรักมากกับการทำนมออแกนิคส์ และชื่นชอบสินค้าออแกนิคส์เป็นตัวตั้ง
ทำให้สามารถก้าวผ่านปัญหาและทำความเข้าใจกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการสนใจงานวิชาการ
และหาความรู้เพื่อพัฒนาสินค้าออแกนิคส์อย่างใกล้ชิด
ระยะต่อไปจะขยายกลุ่มสินค้าไปยังโยเกิร์ต จากธรรมชาติ, ผลิตภัณฑ์แชมพู ที่เป็นออแกนิคส์ รวมทั้งจะเพิ่มกลุ่มสินค้าอาหารและของใช้ส่วนบุคคลจากออแกนิคส์ให้หลากหลาย ภายใต้แบรนด์ ออแกนิคส์ เชื่อว่า ตลาดสินค้าออแกนิคส์จะเติบโตสดใสวัดได้จากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เติบโต 300%
แนวคิดทำธุรกิจ นมออแกนิคส์แบรนด์แรกในประเทศ
-ใจรักในสินค้าออแกนิคส์และศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง
-มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
-สินค้ามีคุณภาพสูงทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตต้องการ
-มีกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพและมีกำลังซื้อดี
-มีความซื่อสัตย์


